ชาวภูเก็ตรวมพลัง ทำกิจกรรมต้านฝรั่งชาวสวิสที่หน้าหาดวิลล่าหรู โดยไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมที่ทำร้ายร่างกาย เตะหมอ ย้ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต้องเท่ากัน เรื่องนี้ให้อภัยไม่ได้ เพราะพื้นที่สาธารณะทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน


เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณชายหาดยามู ม.7 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบริเวณจุดเกิดเหตุ กรณีแพทย์หญิงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต โดนฝรั่งชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้เช่าวิลล่า ที่มีด้านหน้าติดกับชายหาด ทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงคนดังกล่าว จนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั่งดูดวงจันทร์ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และต่อต้านชายชาวสวิสไปในวงกว้าง


โดยพบว่าเช้าวันนี้ ได้มีชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จำนวนกว่า 500 คน เดินทางมาร่วมกิจกรรมแสดงออก ตามที่มีการนัดหมายในโลกโซเชียล ในเวลา 09.00 น. และได้มีการถ่ายรูปกับบันไดที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะมีการรื้อออกในเร็วๆ นี้ นอกจากนั้นชาวบ้านที่มาร่วมกิจกรรม ได้นำกระดาษขนาด A4 เขียนข้อความภาษาอังกฤษว่า Local people don’t want animal. มาถือที่บริเวณจุดเกิดเหตุตรงบันไดริมชายหาด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ที่มาร่วมกิจกรรมด้วย 

...


นายประสิทธิ์ วงศ์ขจร ชาวบ้านรายหนึ่งที่มาร่วมกิจกรรม บอกว่า หลังจากที่ได้ติดตามข่าว ก็รู้สึกว่าเหตุการณ์นี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ที่ไม่แน่ใจว่าเป็นการทำร้ายร่างกายโดยเจตนาหรือไม่ ที่เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายแล้ว ส่วนตนเองในวันนี้เดินทางมาดูเพื่อให้เห็นกับตาตัวเองว่าเป็นอย่างไร และตามที่เห็นก็เชื่อว่าคุณหมอเป็นผู้ถูกกระทำ ก็จะมาให้กำลังใจคุณหมอ จากการติดตามข่าวของฝรั่งคนนี้ ก็รู้สึกว่ามีพฤติกรรมที่เราในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่ยอมรับไม่ได้ ก็อยากให้มาร่วมกันแสดงพลังต่อต้านพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้สังคมนี้อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ไม่น่าจะเกิดขึ้น ยิ่งเป็นการกระทำต่อผู้หญิง ก็ให้อภัยไม่ได้ 


ส่วนการรวมตัวกันวันนี้ เป็นโอกาสอันดีที่มีกิจกรรมนี้ เดิมเมื่อสมัยที่เป็นเด็ก จังหวัดภูเก็ตสามารถเดินได้รอบเกาะภูเก็ต แต่ปัจจุบันมีกลุ่มนายทุนมาซื้อที่ดินแล้วเปลี่ยนมือไป ทำธุรกิจโครงการขึ้นมา ก็มักจะอ้างครอบครองกรรมสิทธิ์จนถึงหาด อ้างเป็นหาดส่วนตัว และเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้อง ให้เป็นพื้นที่สาธารณะ ที่ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน ในฐานะที่เป็นเจ้าของพื้นที่ และอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว เพื่อชมธรรมชาติได้อย่างแท้จริง.