"ศรชล.ภาค 3-ทัพเรือ" เตรียมนำเครื่อง "side-scan sonar" ช่วยค้นหาพิกัดที่แน่นอน จุด "เรือสวรรค์ทัวร์" ล่มกลางทะเล หมู่เกาะสุรินทร์ พร้อมท้ังเร่งให้ จนท.ดูแลสุขภาพจิตของญาติผู้สูญหาย
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเรือสวรรค์ทัวร์อับปาง ที่บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา ว่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) ได้ทำการค้นหา 2 ผู้สูญหาย จากเหตุเรือสวรรค์ทัวร์อับปาง ที่บริเวนเกาะตอรินลา ห่างจากหมู่เกาะสุรินทร์ ประมาณ 4 ไมล์ทะเล โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ ศรชล.ภาค 3 และ ทรภ.3 ส่งเฮลิคอปเตอร์ขึ้นลาดตระเวนค้นหาบริเวณโดยรอบเกาะตาชัย และทางทิศใต้ของหมู่เกาะสุรินทร์ โดยอ้างอิงเส้นทางบินจาก SAR MAP ในช่วงบ่ายจนถึงเย็นวันที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา จากนั้นทำการบินค้นหาด้วยวิธี Parallel Sweep search (ps) โดยมีรัศมี 10-20 ไมล์ทะเล จากจุดคาดการณ์ที่ได้รับจาก SAR MAP ตามห้วงเวลาที่ทำการบินค้นหาอากาศยานโดยเฮลิคอปเตอร์ ที่บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง รัศมี 20 ไมล์
นอกจากนี้ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ศูนย์บัญชาการฯ ยังพิจารณาใช้เครื่องตรวจสอบวัตถุใต้น้ำบนพื้นทะเล (side-scan sonar) ค้นหา ซึ่งทางศูนย์ป้องกันภัยได้เสนอเรื่องขอรับการสนับสนุนจากกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ เพื่อมาช่วยหาพิกัดที่แน่นอนจากจุดเรือล่ม พร้อมทั้งสามารถที่จะทำเครื่องหมายเพื่อระบุตำบลที่ไว้ คล้ายกับการดำเนินการกรณีเรือหลวงสุโขทัย เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ตำแหน่งเรืออับปางยังไม่แน่นอน เพราะตอนเกิดเหตุสภาพคลื่นลมมีความแรงมาก
ขณะที่ทาง จ.พังงา ได้สรุปผลประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการศูนย์ค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัย เหตุเรือสวรรค์ทัวร์ล่มครั้งนี้ว่า เบื้องต้นให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างกองเรือภาค 3, ศรชล.ภาค 3, และอุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์ ส่วนทางสาธารณสุขร่วมกับทางอำเภอฝ่ายปกครอง จะเร่งดูแลสุขภาพจิตของญาติผู้สูญหาย โดยให้ทางเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ทางญาติผู้สูญหายชาวต่างชาติ ซึ่งกำลังเดินทางเข้ามาในพื้นที่ โดยให้ทางเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงาดำเนินการตามกฎหมาย โดยห้ามใช้เรือสวรรค์ทัวร์และเร่งเก็บกู้เรือลำดังกล่าว พร้อมให้ทางตำรวจ สภ.คุระบุรี ดำเนินการตามข้อกฎหมายต่างๆ แก่ผู้เกี่ยวข้องต่อไป
...