ผอ.ศูนย์สันติวิธี หรือ ศสว. มอบนโยบายและแนวทางการแก้ปัญหาความขัดแย้งใน จชต. ย้ำเดินหน้าใช้การเมืองอย่างเข้มข้น พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย รวมถึงกลุ่มผู้เห็นต่าง นำมาใช้เป็นกรอบกำหนดแนวคิดแก้ปัญหาการก่อเหตุร้ายของขบวนการ BRN เชื่อยังมีเป้าหมายในเรื่องการแบ่งแยกดินแดน 


เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 66 ที่ศูนย์สันติวิธี ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี มีพิธีรับ-ส่งหน้าที่และมอบการบังคับบัญชา ระหว่าง พล.ต. ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กับ พล.ต.วรเดช เดชรักษา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 / ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี โดยได้กระทำพิธีลงนามในเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ฯ ณ ห้องประชุมกองสันติวิธี ศูนย์สันติวิธี พร้อมทั้งจัดประชุมรับมอบนโยบายการขับเคลื่อนการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามนโยบายของรัฐบาล 


พล.ต.ปราโมทย์ ซึ่งในคำสั่งปรับย้ายนายทหารประจำปี 2566 ได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพน้อยที่ 4 คนใหม่ และได้รับมอบหมายจาก พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค มทภ.4 ให้มารับผิดชอบขับเคลื่อนงานการเมืองของศสว. กล่าวถึงสถานการณ์ในจชต.ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 20 ปี เห็นว่าทางกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจากขบวนการ BRN ยังใช้ความรุนแรงในการต่อสู้ไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ 

...


"มีเป้าหมายทำให้พื้นที่ในจชต.เป็นพื้นที่ที่ขัดแย้งกันด้วยอาวุธ หรือ ARMED CONFLICT จึงต้องมีการสร้างเหตุร้ายขึ้นมาหล่อเลี้ยงสถานการณ์ตลอดเวลา ในขณะที่การต่อสู้อีกด้านคือทางการเมืองและภาคประชาสังคม ซึ่งเป็นการต่อสู้หลักที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายคือการแบ่งแยกดินแดน หรือเอกราช เพราะฉะนั้นกลไกของศูนย์สันติ จะเป็นกลไกหลักในการเข้ามาระงับยับยั้ง หรือจัดการกับการต่อสู้ทางการเมืองและทำความเข้าใจกับภาคประชาสังคมในจชต."  


พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวถึงการต่อสู้ของขบวนการ BRN ตลอดช่วงที่ผ่านมา มีพัฒนาการ วางกรอบยุทธศาสตร์และแนวทางในการต่อสู้กับภาครัฐ โดยเฉพาะการต่อสู้ทางการเมือง 


"ในวันนี้ถ้าเราวิเคราะห์สถานการณ์ที่เป็นอยู่ เห็นว่าเรากำลังเผชิญกับความท้าทายในเรื่องการต่อสู้รูปแบบใหม่ ทั้งการต่อสู้ในพื้นที่ การต่อสู้ในเวทีรัฐสภาและการต่อสู้ในเวทีสากล ซึ่งการขับเคลื่อนของศสว.ยังยึดมั่นตามกรอบยุทธศาสตร์แผนงานโครงการที่ศสว.ดำเนินการตลอดช่วงที่ผ่านมา"


พล.ต.ปราโมทย์ ย้ำถึงการปรับแผนการทำงานของ ศสว.จะเพิ่มเติมในเรื่องการระดมแนวความคิดของกลุ่มต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งกลุ่มผู้นำทางความคิด อดีตผู้บังคับบัญชา กลุ่มผู้นำศาสนา เครือข่ายไทยพุทธ และกลุ่มผู้เห็นต่าง เพื่อนำมาใช้กำหนดแนวความคิดไปสู่การปฏิบัติในการแก้ปัญหาในพื้นที่ และเห็นว่าสิ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จของการแก้ปัญหาทางการเมืองจะต้องมีการบูรณาการทุกกลไกอำนาจรัฐ บูรณาการทุกสำนักคิดมาช่วยกันในการทำงาน  


"ในปีนี้จะมีการปรับน้ำหนักเพื่อให้ตอบโจทย์มากขึ้น จะต้องมีการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและมองภาพไปในอนาคต 3-4 ปีข้างหน้าว่าขบวนการ BRN เขาคิดอย่างไร และเราจะเข้าไปจัดการแก้ไขปัญหาอย่างไร นับตั้งแต่วันนี้เราคือทีมเดียวกัน ในการขับเคลื่อนตั้งแต่วินาทีนี้ไป ศสว.จะเดินหน้าในการแก้ปัญหาการเมืองอย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพ"