ปิดเมือง สุไหงโก-ลก ระดม EOD เข้าตรวจเหตุคาร์บอมบ์กลางดึก พร้อมปิดกั้นเส้นทาง นำสุนัขทหารเข้าดมกลิ่น พบระเบิดแสวงเครื่องอีก 1 ลูก ประกอบในถังแก๊สปิกนิกวางข้างทางรางรถไฟ ก่อน จนท.ตัดวงจรทำลายทิ้ง นอกจากนี้มียิงใส่ฐาน วงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้ทั้งหมด
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ส.ค. 66 พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย เจ้าหน้าที่ทหารชุดสุนัขสงครามดมกลิ่น และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส พร้อมด้วยส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ ที่บริเวณ 4 แยกอรกานต์ ม.1 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดกั้นการจราจรตั้งแต่ในช่วงคืนที่ผ่านมา พบระเบิดแสวงเครื่องอีก 1 ลูก ที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 20 กก. วางอยู่บริเวณข้างทางของรางรถไฟ โดยมีซากชิ้นส่วนของรถเก๋งที่ใช้เป็นพาหนะในการซุกระเบิดตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน 2 จุดใหญ่ เจ้าหน้าที่ต้องใช้สุนัขสงครามดมกลิ่นในการปล่อยเดินเข้าตรวจสอบ และพบว่าเป็นระเบิดเครื่องที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่ได้เปิดเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือและวิทยุสื่อสาร เข้าไปดำเนินการเก็บกู้นานประมาณ 15 นาที จึงแล้วเสร็จ พร้อมได้ใช้ความระมัดระวังในการขนย้ายออกจากพื้นที่เพื่อยิงทำลาย ซึ่งคาดว่าระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบในถังแก๊สปิกนิกลูกนี้ จะเป็นลูกที่กระเด็นออกจากรถเก๋งที่ทำงานเพียง 1 ลูก ทำให้ประสิทธิภาพการทำลายล้างของระเบิดคาร์บอมบ์ในช่วงคืนที่ผ่านมามีอนุภาพน้อยลง
...
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบซากรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ขง 1540 สงขลา ถูกอนุภาพของระเบิดกลายสภาพเป็นเศษเหล็ก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ที่บริเวณด้านหลังของฐานปฏิบัติการณ์ชั่วคราวของจุดตรวจบุญยลาภนฤมิตร ซึ่งมีอาคารน็อคดาวน์ 1 หลังที่ใช้สำหรับเป็นเรือนนอน ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 40 เมตร ริมถนนฝั่งตรงข้ามเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนพกขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 8 ปลอก และที่บริเวณพงหญ้ารกทึบข้างอาคารน็อคดาวน์ เจ้าหน้าที่พบร่องรอยของระเบิดไปป์บอมบ์ จำนวน 1 ลูกตกใส่ แต่ไม่มีทรัพย์และอาคารน็อคดาวน์ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้แยกย้ายกันทำงาน 3 ชุด ชุดที่ 1 ขับรถเก๋งคาร์บอมบ์ ซึ่งมีระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก จำนวน 2 ลูก หนัก ประมาณ 50 กก. จุดชนวนด้วยการตั้งเวลา มาตามถนนมุ่งหน้าจากสาย อ.แว้ง ขับตรงมายังจุดตรวจบุญยลาภนฤมิตร เมื่อถึงบริเวณ 4 แยกอรกานต์ คนร้ายชุดที่ 2 ที่ซุ่มอยู่บริเวณด้านหน้าของอาคารน็อคดาวน์ได้ใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ยิงใส่ข่มขู่ เมื่อคนขับรถเก๋งคาร์บอมบ์จอดบริเวณ 4 แยก ได้เปิดประตูรถเก๋งมาวิ่งขึ้นรถ จยย.อีก 1 คันมารับ และรีบขี่รถ จยย.หลบหนีไป จากนั้นประมาณ 5 นาที จึงได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้ระเบิด 1 ใน 2 ที่ไม่ทำงานกระเด็นตกลงมาอยู่บนถนนริมทางของรางรถไฟ แล้วคนร้ายชุดที่ 3 ได้ขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ 1 ลูก เพื่อเป็นการเบิกเส้นทางให้คนร้ายทั้ง 2 ชุด ที่ก่อเหตุแล้วเสร็จได้หลบหนีอย่างสะดวก แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทรัพย์ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย
และหลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ และได้สั่งเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้า ณ จุดเกิดเหตุ จนสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ โดยเฉพาะขณะคนร้ายขับรถยนต์ประกอบระเบิดมาจอด คนร้ายที่ขับรถยนต์คาร์บอมบ์วิ่งหลบหนีไปซ้อนท้ายรถ จยย. ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่า กลุ่มคนร้ายมุ่งหวังสร้างสถานการณ์โดยที่ไม่มุ่งต่อชีวิตหรือทรัพย์
...
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ เข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวน หาที่มาที่ไปของบุคคลที่เป็นผู้ครอบครองรถเก๋ง มาทำการสอบสวนเพื่อขยายผลไปสู่การจับกุมตัวมาดำเนินคดี.