เซ่นส่วย "โกดังพลุระเบิด" สั่งย้าย "จ่าฟาโร" สาวหาเบื้องลึกเจ้าของตัวจริง

ตำรวจเร่งสางคดีโกดังพลุบึมสาวลึกไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากปล่อยปละละเลยต้องมีความผิดด้วย สองผัวเมียเจ้าของโกดังหนีอยู่ที่มาเลเซีย เร่งตรวจเป็นเจ้าของตัวจริงหรือนอมินีให้กับนักการเมืองท้องถิ่น ส่วน สธ.นราธิวาสแจงน้ำในระยะ 500 เมตรห้ามชาวบ้านใช้ ส่วนอากาศไม่พบสิ่งผิดปกติ ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 681 ครัวเรือน หวังสร้างเมืองใหม่เพื่อลบภาพเหตุการณ์สยองกระทบจิตใจ

ภายหลังตำรวจออกหมายจับนายสมปอง ณะกุล และ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวีระวัฒน์ สองผัวเมียเจ้าของโกดังเก็บพลุระเบิดที่ตลาดมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อานุภาพแรงระเบิดเสียง ดังสนั่นหวั่นไหว เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 12 ศพ บาดเจ็บอีก 120 คน ร้านค้าและบ้านพังพินาศหลายร้อยหลัง ขณะนี้สองผัวเมียหลบหนีอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ตำรวจอยู่ระหว่างประสานไปยังตำรวจมาเลเซียในการช่วยติดตามจับกุม ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เร่งเยียวยาชาวบ้านที่ประสบภัยได้รับความเดือนร้อนไร้ที่อยู่อาศัย

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 ก.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางไปตรวจสอบโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิดที่ตลาดมูโนะ มี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส นำคณะเดินทางดูความเสียหายที่เกิดขึ้น บ้านอยู่ในสภาพปรักหักพังรอการประเมินของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยา และจุดที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้ความ สนใจเป็นกรณีพิเศษคือ จุดต้นตอของดอกไม้ไฟที่อยู่ในโกดังระเบิดมีความรุนแรง คาดว่าเมื่อเปรียบเป็นระเบิดจะมีน้ำหนักมหาศาล ไม่น่าที่จะมาสร้างโกดังเก็บดอกไม้ไฟในบริเวณชุมชนเช่นนี้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับเหตุที่เกิดขึ้น ผบ.ตร. มีความห่วงใยถึงความรวดเร็วในการดำเนินคดี มอบหมายให้ตนลงพื้นที่มากำกับคดีเอง สิ่งสำคัญที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนคือ การเร่งรัดเอาความเป็นธรรมสู่ประชาชน การดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะนี้ออกหมายจับไปแล้ว 2 คน เป็นผัวเมียเจ้าของโกดังยังหลบหนีคดี ในวันนี้จะขยายต่อตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง เพราะเรื่องของวัตถุต่างๆ พลุหรือวัตถุไวไฟเหล่านี้มีกฎหมายควบคุมอยู่ 5 หน่วยงานด้วยกัน ประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานทหาร กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ยังนับรวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากปล่อยปละละเลยจะมีความผิด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีคำสั่งย้าย 4 เสือ สภ.มูโนะ ประกอบด้วย พ.ต.อ.สุธาเวชช์ ธารีไทย ผกก.สภ.มูโนะ, พ.ต.ท.อาลี วาเด็ง รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.จรัญ อินทรา สว.สส. และ พ.ต.ต.ณเชษฐ์ มณีโรจน์ สวป. ให้ไปช่วยราชากรที่ ศปก.ภ.จ.นราธิวาส ส่วน “จ่าฟาโร” ระบุว่าเป็นคนเก็บส่วยตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบต้องให้ความเป็นธรรม นักการเมืองท้องถิ่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ ยังไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ต้องไล่ทั้งหมดว่าสองผัวเมียเจ้าของโกดังเป็นเจ้าของจริงหรือไม่ หรือว่าเป็นแค่นอมินี ถ้าเป็นเจ้าของจริงก็โอเค แต่ถ้าไม่ใช่จะไล่ตรวจสอบทั้งหมด 

ขณะที่บรรยากาศที่ สภ.มูโนะ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แม้จะมีคำสั่งย้าย 4 เสือไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จ.นราธิวาส และล่าสุดมีคำสั่งย้าย จ.ส.ต.มาหามัดฟาโร หรือจ่าฟาโร ตันยีนายู ผบ.หมู่งานจราจร สภ.มูโนะ เพิ่มเติมอีก 1 นาย ไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จ.นราธิวาส เช่นกัน เนื่องจาก จ.ส.ต.มาหามัดฟาโร หรือจ่าฟาโร  มีข้อมูลระบุว่าทำหน้าที่เก็บส่วยจากนักธุรกิจสีเทาในพื้นที่ตลาดมูโนะ

ด้านพ่อค้ารายหนึ่งใน ต.มูโนะ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ ต.มูโนะ ลักลอบจำหน่ายพลุดอกไม้ไฟมานานแล้ว และไม่มีหน่วยงานใดเข้ามายุ่ง เพราะทุกเดือนจะมีคนของรัฐมารับเงินจากพ่อค้า จะเป็น อส.และ ตำรวจชั้นผู้น้อย รวมไปถึงหน่วยงานอื่นๆเช่นกัน แต่พ่อค้ารายใหญ่ในพื้นที่จะอยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก มีนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่เป็นคนรับผิดชอบ มีโกดังขนาดใหญ่และขนาดเล็กกระจายอยู่ในเขตเทศบาลสุไหงโก-ลก แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไร เนื่องจากเบื้องหลังจะมีนักการเมืองใหญ่ดูแล เมื่อประมาณเดือน ก.ค.54 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้กฎอัยการศึกนำกำลังบุกยึดประทัดกว่า 100 กล่องจากโกดังของ “เจ้จู” นักการเมืองท้องถิ่นสุไหงโก-ลก เป็นคนสนิทของนักการเมืองใหญ่ในพื้นที่ ภายในอาคารพาณิชย์ ถนนเจริญเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ จนถึงตอนนี้ขบวนการลักลอบค้าพลุดอกไม้ไฟยังมีจำนวนมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรมหาศาล สำหรับพื้น อ.สุไหงโก-ลก ยังมีการค้าน้ำมันเถื่อนรวมไปถึงสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆที่ลักลอบไว้ตามชุมชนร้านค้าในเขตเมืองอีกจำนวนมาก

มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายมุ่งเป้าไปที่ตัวการใหญ่ที่พัวพันธุรกิจพลุดอกไม้ไฟ ทำให้ข้าราชการระดับสูงในพื้นที่บางคนถึงกับอยู่ไม่ติดที่ เพราะเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะสาวถึงตัว และยังมีข่าวในทางลับด้วยว่า 2 ผัวเมียเจ้าของโกดังระเบิดที่ ต.มูโนะ อาจจะเป็นแค่นอมินีให้กับนักการเมือง และอาจจะเป็นสาเหตุที่ไม่กล้าจะมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ถูกสั่งไม่ให้เดินทางกลับ และให้หลบหนีออกนอกประเทศ เพราะถ้าหากเข้ามาพบพนักงานสอบสวน ทั้งสองคนอาจจะแฉว่าใครอยู่เบื้องหลังและจ่ายส่วยให้กับใครหน่วยงานใดบ้าง

สำหรับการเยียวยาและช่วยเหลือชาวบ้าน นายแพทย์ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส นำทีมลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบคุณภาพของน้ำและมลพิษทางอากาศ เนื่องจากมีสารพิษจากโกดังแตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ ภายหลังตรวจเสร็จ นพ.ชัยวัฒน์เปิดเผยว่า เป็นวันที่ 2 ของการส่งทีมงานมาตรวจคุณภาพของน้ำตั้งแต่จุด 200 เมตร รัศมี 500 เมตร และเกินกว่านั้น พบว่าน้ำในระยะ 500 เมตรไม่สามารถนำมาใช้ได้เลยทุกกรณี ส่วน 500 เมตรขึ้นไปต้องใช้น้ำด้วยความระมัดระวัง ตอนนี้แหล่งน้ำที่ใช้มาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเสียหายจะเป็นประปาขององค์การบริหารส่วนตำบล และส่วนของทหารนำรถบรรทุกน้ำมาช่วยเหลือในพื้นที่ ส่วนมลพิษทางอากาศเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมโรคติดต่อลงพื้นที่สุ่มตรวจอากาศไม่พบความผิดปกติ ตอนนี้น้ำในระยะ 500 เมตร ห้ามใช้

นพ.ชัยวัฒน์เปิดเผยอีกว่า พื้นที่เกิดเหตุในบางจุดยังมีประทัด เชื้อเพลิงเก่าๆ และดินประสิว หากเดินเข้าไปไม่ใส่หน้ากากอนามัยยังมีกลิ่นดินประสิว แบเรียมและอีกหลายๆอย่างที่อันตราย แนะนำเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ต้องเข้ามาทำงานให้ใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือ ส่วนอากาศรอบนอกไม่มีอันตราย แต่คนที่เดินเข้ามาภายในต้องระมัดระวังตัว แนะนำให้หลีกเลี่ยงไปก่อน เพราะตอนนี้ยังมีดินประสิวอยู่ เมื่ออากาศร้อนอาจจะระเบิดตามมาได้ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่อีโอดีจะเข้ามาตรวจสอบในเรื่องของดินประสิว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและไม่ให้เกิดการระเบิดซ้ำ

มีรายงานว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 681 ครัวเรือน จะต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทำเมืองใหม่เข้ามาเพื่อจะให้ลืมภาพเก่าๆที่เคยประสบเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ครั้งนี้หรือแม้แต่เหตุการณ์น้ำท่วมในทุกๆปี จะทำระบบใหม่ทั้งหมด เป็นการเยียวยาที่ดีที่สุดที่ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และที่สำคัญเรื่องการประเมินสภาวะจิตใจของผู้ประสบภัยตอนนี้อยู่ที่ 40% สำรวจมีความเสี่ยงที่จะเป็นเด็กวิตกกังวล 24% ความกังวลนี้เกิดจากการสูญเสียญาติ สูญเสียทรัพย์สิน และในส่วนเรื่องที่พักหากดำเนินการในส่วนนี้สำเร็จ สภาวะจิตใจอาจจะดีขึ้นเป็นลำดับ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดจิตอาสาปฏิบัติการมวลชนและชุมชนสัมพันธ์สถานีตำรวจในสังกัดภ.จ.นราธิวาส รวมถึงชุดจิตอาสากรมทหารราบที่ 151 กองพันทหารราบที่ 1, 2, 3 และกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 3 กองบังคับการควบคุมสุริโยทัย ออกช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบขนย้ายซากปรักหักพัง ทำความสะอาดและฟื้นฟูสภาพบ้าน ในแต่ละหลังนั้นต้องใช้เวลานานกว่าจะเสร็จ บ้านเรือนเสียหายทั้งหมด 681 ครัวเรือน ทรัพย์สินได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ขณะนี้เจ้าหน้าที่เน้นการรับบริจาคเป็นเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ต.มูโนะ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขานราธิวาส เลขบัญชี 905-3-66122-0 ชื่อบัญชี “เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ มูโนะ” ส่วนเงินบริจาคปัจจุบันอยู่ที่ 12,688,792.00 บาท ณ วันที่ 1 ส.ค.2566 เวลา 22.40 น. ส่วนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายขอรับบริจาคเสื้อผ้าใหม่ เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถนำไปสวมใส่ได้เลย เนื่องจากหากเป็นเสื้อผ้ามือสอง ในพื้นที่เกิดเหตุที่บ้านเรือนพังเสียหาย จะมีข้อจำกัดเรื่องการซักล้างทำความสะอาดก่อนสวมใส่ สำหรับประเภทอาหารขณะนี้มีเพียงพอต่อการแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยแล้ว แต่หากประสงค์จะนำมาบริจาคขอให้เป็นอาหารแห้งที่มีเครื่องหมายฮาลาล ผู้ประสบภัยส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม