สาวร่างทรงที่กระบี่ ผู้ต้องหาร่วมฆ่าม่ายสาวถูกจ่อยิงตายในสวนยาง ปมเหตุน่าจะมาจากฆ่าเพื่อหวังเงินประกัน 5 ล้านบาท ล่าสุดรับกับพนักงานสอบสวนแค่ร่วมวางแผนฆ่า แต่ไม่เกี่ยวกับเงินประกัน ขณะที่สามีให้การภาคเสธรับแค่เป็นเจ้าของปืน ตำรวจคุมตัวส่งศาลฝากขัง เกือบโดนญาติคนตายรุมประชาทัณฑ์ 

จากคดีมือปืนดักจ่อยิง น.ส.ปิ่นมณี สมศักดิ์ หรือเด็ก อายุ 37 ปี ชาวบ้านหมู่ 10 ต.เขาพนม เสียชีวิตภายในสวนยางพารา หมู่ 10 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ เมื่อคืนวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ จับกุม นายวิทยุต แซ่ส้อ หรือโก อายุ 45 ปี มือปืนคนลั่นไก พร้อมด้วย นางสุภัทตรา ดิษฐบำรุง อายุ 46 ปี ร่างทรง และ นายสุรชัย สุวรรณมาต อายุ 39 ปี สามีภรรยา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพบปมเหตุน่าจะมาจากฆ่าเพื่อหวังเงินประกัน

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 ก.ค. ที่ สภ.เขาพนม จ.กระบี่ ตำรวจคุมตัว นางสุภัทตรา สาวร่างทรง พร้อมด้วย นายสุรชัย 2 สามีภรรยา ส่งฝากขังศาล จ.กระบี่ ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ระหว่างคุมตัวออกจากห้องขัง นางสุภัทตรา ยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ส่วนเรื่องเงินประกันตนเองก็ไม่รู้เรื่องด้วย เป็นเรื่องของลูกสาวผู้ตายเอง

โดยระหว่างตำรวจกำลังคุมตัวขึ้นรถ ปรากฏว่าด้านหน้า สภ.เขาพนม มีกลุ่มญาติผู้เสียชีวิต พร้อมด้วย น.ส.มิ้ม อายุ 17 ปี ลูกสาวผู้ตาย มายืนรอดูผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทันทีที่เห็นหน้า นางสุภัทตรา ลูกสาวผู้ตายก็ปรี่เข้าไปจะทำร้ายทันที โดยเขวี้ยงรองเท้าใส่ พร้อมตะโกนถามเสียงดังว่า "มึงทำแม่กูทำไม" ก่อนจะตะโกนด่า นางสุภัทตรา อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ญาติๆ ก็พากันจะวิ่งกรูเข้าไปทำร้าย ตะโกนด่าสาปแช่ง ตำรวจต้องช่วยกันญาติออก และเร่งพาตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขึ้นรถนำตัวออกไปทันที โดยช่วงที่รถกำลังจะเคลื่อนตัวออก นางสุภัทตรา ยังโบกมือพร้อมพูดบ๊ายบายให้กับญาติของตัวเองที่มารอส่งด้วย

...

ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า พนักงานสอบสวน นำตัวทั้งคู่มาสอบปากคำที่ห้องสอบสวน สภ.เขาพนม พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สมมาตย์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เขาพนม เผยว่า ในชั้นสอบสวน นางสุภัทตรา ให้การยอมรับสารภาพแล้วว่า ร่วมวางแผนสังหารจริง แต่ให้การปฏิเสธในเรื่องของการฆ่าเพื่อหวังเงินประกัน อ้างว่าไม่รู้เห็นด้วย เป็นเรื่องของลูกสาวผู้ตาย เพราะมีชื่อเป็นคนรับผลประโยชน์ แต่ปฏิเสธจะให้ข้อมูลเรื่องมูลเหตุจูงใจ ขณะที่ นายสุรชัย สามีนางสุภัทตรา ให้การภาคเสธ โดยยอมรับเพียงว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนของตนจริง เป็นอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ซึ่งตำรวจจะติดตามเอาปืนกระบอกดังกล่าวมาประกอบสำนวนการสอบสวน เป็นหลักฐานมัดตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 3 รายต่อไป.