ชุดปฏิบัติการพิเศษสืบสวน ภาค 7 บุกทลาย “บ้านใหญ่” สถานบันเทิงเถื่อนกลางเมืองหัวหิน แหล่งมั่วสุมยามค่ำคืนลักลอบเปิดยันเช้า ดัดแปลงบ้าน หลังใหญ่ไว้รองรับกลุ่มนักเที่ยวที่เลิกจากบาร์เบียร์ร้านเหล้าละแวก ใกล้เคียงมาดื่มกินกันต่อ ตะลึงนักท่องราตรีอัดแน่นเต็มบ้าน 167 คน ตรวจเจอฉี่สีม่วง 1 คน การ์ดพกปืน 1 คน ยึดเตาบารากุ 11 เตา ควบคุมตัวผู้ดูแลสถานที่ ดำเนินคดีหลายข้อหา ผบช.ภ.7 สั่งกำชับทุก สภ.ในพื้นที่คุมเข้มกวดขันสถานบันเทิงให้ปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด

ปฏิบัติการบุกทลายสถานบันเทิงเถื่อนกลาง เมืองหัวหินครั้งนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 3 ก.ค. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 สั่งการให้ พ.ต.อ.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.7 พ.ต.ท.ศันสนะ พิริยะจิตตะ รอง ผกก. นำกำลังตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.7 ชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรี 7 กก.สส.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับ พ.ต.ท.จักรพัฒน์ จันทร์เที่ยง รอง ผกก.ป.สภ.หัวหิน รักษาการ ผกก.สภ.หัวหิน เข้าตรวจสอบสถานบันเทิง “บ้านใหญ่” เลขที่ 190/13 ซอยหัวหิน 80 ถนนเพชรเกษม ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งว่าเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดและไม่มีใบอนุญาต

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นขนาดใหญ่ปลูกในเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด ดัดแปลงเป็นสถานบริการตั้งโต๊ะเก้าอี้ให้ลูกค้านั่งชิลบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน ส่วนภายในบ้านชั้นล่างเป็นห้องโถงใหญ่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ มีไฟเธคพร้อมดีเจเปิดเพลงดังกระหึ่ม ท่ามกลางนักท่องราตรีทั้งชายหญิงยืนเบียดเสียดดื่มเหล้าเบียร์เต้นรำตามจังหวะเสียงเพลงกันอย่างเมามันอยู่เต็มบ้าน ตำรวจสั่งให้ปิดเพลงและเปิดไฟสว่าง ควบคุมตัวนักเที่ยวทั้งหมด 167 คน เป็นชาย 94 คน และหญิง 73 คน แยกตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดในร่างกาย 1 คน ตรวจยึดเตาบารากุ 11 เตา วางอยู่ตามโต๊ะต่างๆพร้อมตัวยาบารากุกลิ่นผลไม้จำนวนหนึ่ง

...

สอบสวนทราบว่า ภายในซอยดังกล่าวเป็นย่านสถานบันเทิงมีบาร์เบียร์และร้านเหล้าขนาดเล็กตั้งเรียงรายจำนวนมาก หลังร้านเลิกลูกค้าที่ยังติดลมก็จะพากันเข้าไปดื่มกินกันต่อที่บ้านหลังนี้จะเปิดให้บริการยันเช้า เป็นที่รู้กันดีในหมู่นักเที่ยวกลางคืน ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วยนายโชคดี กล้าปราบโจร อายุ 44 ปี รับเป็นเจ้าของสถานที่ ในความผิดฐานเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายสุราในเวลาห้าม และฝ่าฝืนขายสินค้าบารากุไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากุ น้ำยาสำหรับเติมบารากุไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า นายคฑาวุฒิ เขียวธง อายุ 29 ปี การ์ดของร้าน พกปืนไทยประดิษฐ์ .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 3 นัด ในความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และนายสุรศักดิ์ เสาร์ทอง อายุ 36 ปี ปัสสาวะสีม่วง ในความผิดเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด เป็นปัญหาสำคัญที่มีผลกระทบและเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดภาค 7 เร่งรัดติดตามสืบสวนกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ทั้ง 8 จังหวัด 104 สถานี กำชับให้ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบเน้นตรวจตราสถานบันเทิง ห้ามเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด รวมถึงงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดให้กับผู้ที่อายุไม่ถึง 20 ปี และต้องมีใบอนุญาตประกอบการสถานบันเทิง เพื่อไม่ให้กลุ่มเยาวชนเข้าไปใช้บริการ อันอาจจะก่อปัญหาอาชญากรรม ลักลอบค้ายาเสพติด และป้องกันนักดื่มหน้าใหม่อีกด้วย ก่อนหน้านี้ตำรวจจับกุมกลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญได้หลายราย พบว่ามีการจำหน่ายยาเสพติดทั้งยาบ้า ยาอี และยาไอซ์ ในกลุ่มนักเที่ยวราตรี จึงต้องเข้มงวดเรื่องการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดกลุ่มนักเที่ยวมากขึ้น เพื่อป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดมาแพร่กระจายหรือจำหน่ายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ