กลับบ้านแล้ว คดี 5 ชีวิตหายไปกับรถตู้เกือบ 3 เดือน ตำรวจท่าศาลารับกลับเมืองคอน สอบขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้อง ด้าน บิ๊กโจ๊ก สอบถามแล้วเป็นการพาเด็กๆ เดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ หลังขายที่ดินได้ 4 แสนบาท ไม่ใช่การลักพาตัว เรียกค่าไถ่ หรือค้ามนุษย์
จากกรณีการหายตัวไปของกลุ่มเครือญาติพร้อมกันถึง 5 ราย คือนางอุษา ปานรอด อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช น.ส.ชนนิกานต์ หรือน้องบีม โตชะนก อายุ 22 ปี นักศึกษาราชภัฏสุราษฎร์ธานี น.ส.ญาสุมินร์ หรือน้องรุ้ง โจมฤทธิ์ อายุ 22 ปี (เพื่อน น.ส.ชนนิกานต์) ด.ช.พรพิพัฒน์ ปานรอด อายุ 13 ปี หรือน้องฟอร์ด ด.ญ.ศิรประภา หรือน้องฟ้าใส รุจิตร อายุ 13 ปี ได้มีญาติออกร้องเรียนขอความช่วยเหลือว่าได้ถูกนายลมกรดหรือแบงก์ แสงสว่าง อายุ 36 ปี พาขึ้นรถตู้สีขาวป้ายทะเบียน นข 8797 อุดรธานี หายไปตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. หรือกว่า 2 เดือน ไม่สามารถติดต่อได้ ไม่ทราบชะตากรรมว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร จนล่าสุดวานนี้ (30 มิ.ย.) ตำรวจพบตัวบุคคลทั้ง 5 คนแล้วหลังถูกนำมาปล่อยไว้ที่ในวัดช่องลม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ล่าสุดวันที่ 1 ก.ค. เวลา 09.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้มอบหมายให้พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าศาลา และ พ.ต.ต.ฤทธิพงศ์ ล่องหลง กับพวกมารับตัวนางอุษา ปานรอด กับญาติๆ รวม 5 คน ที่ สภ.ปากเกร็ด ออกเดินทางจากอำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี กลับอำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พื้นที่เกิดเหตุ ทำการสอบสวนปากคำนางอุษาและญาติๆ ทั้ง 5 คนอย่างละเอียด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขออนุมัติศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ที่เหลือต่อไป โดยคาดว่าคณะรถตู้ของตำรวจ สภ.ท่าศาลาทั้งหมดจะเดินทางมาถึง สภ.ท่าศาลา คืนนี้ (1 ก.ค. 2566) ท่ามกลางความโล่งอกของญาติๆที่ทั้ง 5 ชีวิตปลอดภัย
...
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.ท่าศาลา เผยว่าคดีนี้หลังตำรวจ สภ.ท่าศาลารับแจ้งความจากญาติๆ แล้วได้ออกทำงานอย่างเต็มที่ โดยก่อนหน้านี้ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติออกหมายจับนายลมกรดหรือแบงค์ แสงสว่าง ในข้อหาพรากผู้เยาว์ฯ และหากพบหลักฐานเพิ่มเติมก็จะแจ้งข้อหานายลมกรดหรือแบงค์ต่อไป
ทั้งนี้ ได้ตรวจยึดรถตู้สีขาวมาไว้ที่ สภ.ท่าศาลา และจับกุมนายนพดล แสนเมืองอินทร์ คนขับรถตู้มาได้แล้ว แจ้งข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์ หลังจากสอบสวนแล้วได้ให้ประกันตัวไปในวงเงิน 7 หมื่นบาท ส่วนนายลมกรดหรือแบงค์ อยู่ระหว่างการติดตามตัวอยู่ในขณะนี้ เพื่อดำเนินคดี ส่วนสาเหตุการหายตัวของ 5 คนไปในครั้งนี้เกิดจากอะไรแน่ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของนายลมกรด พบว่ามีคดีฉ้อโกง 1 คดี แต่คดีได้มีการยอมความกันไปแล้ว
อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. กล่าวว่า ยืนยันได้ว่าคดีนี้ไม่ใช่การค้ามนุษย์ และการอุ้มตัวไป แต่เป็นการพาเยาวชนไปเที่ยว หลังได้เงินจากการขายที่ 4 แสนบาท ส่วนสาเหตุที่พาเด็กไปนานกว่า 3 เดือน ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นที่ อำเภอท่าศาลา และมีการพาไปร่วมงานศพที่อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ก่อนนำลงมาเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่อื่นๆ
"เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นการพากลุ่มน้องๆ เดินทางเที่ยวไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใด ในส่วนทางคดีก็ต้องเดินหน้าต่อไป โดยจะนำตัวทั้ง 5 คนไปที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะให้ทางเจ้าหน้าที่จัดรถส่งตัวกลับบ้าน ซึ่งในส่วนของนายลมกรด มีหมายจับในคดีฉ้อโกงธนาคารที่ จ.อุดรธานี อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี"