กระท้อนนาปริก เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว โดยชาวสวนบ้านนาปริก อ.ควนโดน จ.สตูล ได้เฮเพราะปีนี้ได้ราคาหน้าสวนดีเพราะตลาดมีความต้องการสูง กก.ละ 60-70 บาท หากเป็นคัดไซส์ใหญ่ขายออนไลน์ได้ถึง กก.ละ 150 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดสตูล นอกจากมีความโด่งดังในเรื่องของจำปาดะแล้ว กระท้อนก็มีความดังไม่แพ้กัน สตูลในอดีตคือ มูเก็มสโตย ซึ่งแปลว่ากระท้อน เพราะมีการปลูกกระท้อนกันมาก แต่ขาดการดูแลรักษา จึงไม่เป็นที่นิยม แต่ในระยะหลังประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมากระท้อนบ้านนาปริกกลับมาได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะรสชาติอร่อย เนื้อฟู นุ่ม และขณะนี้กระท้อนบ้านนาปริก กระท้อนชื่อดังเริ่มให้ผลผลิตออกสู่ตลาดกันแล้ว
น.ส.ยุภา มาลินี ชาวสวนกระท้อนบ้านนาปริก ม.9 ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล กล่าวว่า กระท้อนบ้านนาปริกเป็นกระท้อนที่ปลูกปราศจากสารเคมี อายุต้นกว่า 30 ปีแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์อีล่า ปุยฝ้ายและเขียวหวาน ซึ่งเป็นพันธุ์ที่เมื่อ 30 ปีก่อน ส่วนราชการนำมาให้ปลูกเพื่อส่งเสริมนอกจากที่ปลูกเป็นสวนแล้ว จะเห็นว่าชาวบ้านจะมีต้นกระท้อนแทบทุกบ้าน สมัยก่อนกระท้อนไม่ค่อยได้รับความนิยมเพราะขั้นตอนการดูแลโดยเฉพาะการห่อ ค่อนข้างยุ่งยาก
...
ชาวสวนกระท้อนบ้านนาปริก กล่าวต่อว่า แต่เมื่อช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาเกษตรกรได้เทคนิคการห่อผลกระท้อน สามารถห่อผลกระท้อนได้มากขึ้นทำให้กระท้อนที่มีถูกแม่ค้าจากต่างจังหวัดเข้ามาซื้อ กระท้อนสตูล ชาวสตูลจึงไม่ได้กิน หากอยากกินต้องไปซื้อจากต่างจังหวัด เมื่อมีสื่อเข้ามาทำข่าว มีการโปรโมตกระท้อนในพื้นที่ ทำให้กระท้อนบ้านนาปริกโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ ประกอบกับมีการขายทางออนไลน์ ทำให้กระท้อนนาปริกเป็นที่ต้องการของตลาด มีราคาสูงขึ้นสมกับคุณภาพ
น.ส.ยุภา กล่าวอีกว่า สวนกระท้อนของชาวบ้านจะเป็นสวนผสมผสาน เช่น ของตนพื้นที่ 3 ไร่ มีกระท้อน 25 ต้น เงาะ 35 ต้น สวนอื่นๆ ก็จะมีทุเรียน ลองกอง แตกต่างกันไป แต่ที่กระท้อนนาปริกได้รับความนิยมมากน่าจะอยู่ที่สภาพดินที่เป็นดินทราย มีการทับถมของแร่ธาตุต่างๆ ทำให้กระท้อนมีรสหวาน อร่อย เนื้อฟูนุ่ม อีล่าเนื้อฟูนุ่ม รสหวานอมเปรี้ยว จะมีผลใหญ่อยู่ที่ 600 กรัม ถึงกว่า 1 กิโลกรัม ขณะที่ ปุยฝ้ายเนื้อแน่น รสหวาน ขนาดผลอยู่ที่ 400-500 กรัมต่อผล ส่วนเขียวหวานลูกเล็กแม้ผลจะสีเขียวแต่ก็มีความหวาน แต่ละพันธุ์จะมีคุณสมบัติต่างกันไป
ชาวสวนกระท้อนบ้านนาปริก กล่าวถึงราคากระท้อนว่า ปีนี้กระท้อนได้ราคาดี เพราะตลาดมีความต้องการสูง หากขายทางเพจ กระท้อนคละไซส์ขายกิโลกรัมละ 85 บาท ขายส่งมาซื้อถึงสวน 60-70 บาท และหากขนาดจัมโบ้คัดพิเศษขายออนไลน์ กก.ละ 150 บาท เพื่อให้ราคาขายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ชาวบ้านกว่า 10 รายมีการรวมกลุ่ม เป็นวิสาหกิจชุมชนเชิงนิเวศและวิถีเกษตรท่องเที่ยวกลุ่มเขาโต๊ะกรัง และตั้งเพจ “กระท้อนนาปริกสโตยสตูล” ขณะนี้ ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด มีการสั่งจองทางเพจเข้ามาวันละไม่ต่ำกว่า 30 กิโลกรัม โดยผลผลิตของกระท้อนนาปริกปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 50 ตัน
...
ขณะที่ นางฮามีนะ แดงงาม เจ้าของสวนกระท้อนดาบ๊ะ กล่าวว่า ปีนี้กระท้อนมีราคาดี ที่สวนของตนได้ผลผลิตมากกว่าปีก่อน โดยเริ่มเก็บขายครั้งละ 100 กก. และหากช่วงที่ผลผลิตออกมากจะเก็บได้ครั้งละ 400-500 กก.เลยทีเดียว กระท้อนที่สวนก็จะเป็นพันธุ์อีล่า และปุยฝ้าย ความนิยมอีล่าจะนิยมมากกว่า เพราะผลใหญ่เนื้อฟูกินอร่อย รสชาติจะหวานอมเปรี้ยว ส่วนคนที่ชอบหวานก็จะชอบปุยฝ้ายไปเลย กระท้อนปีนี้มีหลายรุ่นคาดว่าจะไปหมดปลายเดือน ก.ค.หรือ กลาง ส.ค. ซึ่งกลางเดือน ก.ค.จะมีงานกระท้อน “ชวนมาชิมกระท้อนสโตยสตูล” ณ ลานพักรถทางหลวง ปากทางเข้าบ้านนาปริก ระหว่างวันที่ 14-15 ก.ค. มีการเสวนาสโตยสตูลในชุมชนโบราณ จำหน่ายกระท้อนและผลิตภัณฑ์จากกระท้อน เช่นกระท้อนทรงเครื่อง กระท้อนลอยแก้ว แยมกระท้อน ฯลฯ
นางวรรณนภา คงเคว็จ เกษตร อ.ควนโดน กล่าวว่า ขณะนี้ กระท้อนกำลังออกสู่ตลาด และปีนี้จากสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้ผลไม้ในพื้นที่แทบทุกชนิดออกมากันหลายรุ่น ส่งผลต่อการดูแลในปีต่อไป โดยชาวบ้านนาปริกได้รวมตัวกันสร้างเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขึ้น ทางเกษตรอ.ควนโดน ก็ผลักดันให้กระท้อนบ้านนาปริกได้มาตรฐานและยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นกระท้อนจีไอ หลังจากเราได้จำปาดะจีไอไปแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติ ซึ่งความโดดเด่นของกระท้อนนาปริก ที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศคือความอร่อย ผลโตเปลือกบาง เนื้อนุ่มฟู สามารถใช้ช้อนตักกินได้เลย ตอนนี้ผลผลิตในแต่ละปียังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทางเกษตรอ.ควนโดน ได้สนับสนุนเกษตรกรรุ่นใหม่เพิ่มพื้นที่ปลูกกระท้อนให้มีมากขึ้น ผู้สนใจสามารถติดต่อซื้อกระท้อนได้ที่ คุณยุภา มาลินี 08-8592-0455.
...