ผู้การกองปราบฯลุยเอง ยกทีมหนุมานล่องใต้ค้น 8 จุด ยะลา-นราธิวาส ล่าแก๊งเรียกค่าไถ่รับจ้างเจ้าแม่ยานรกขอนแก่นทวงหนี้โหด 5 แสนบาท สุดเหี้ยมขู่กรรไกรตัดหูซ้อมเหยื่อปางตาย ญาติเหยื่อต้องหาเงินมาจ่าย 4 แสนบาทถึงปล่อยตัว แต่ไม่หยุดตามข่มขู่ทวงที่เหลืออีก 1 แสนบาท เหยื่อกลัวเข้าแจ้งความตำรวจท้องที่ คดีไม่คืบหน้าเลยพึ่งกองปราบฯตามจับได้ยกแก๊ง 5 คน รวมทั้งผู้ว่าจ้างที่ขอนแก่นด้วย
กองปราบฯยังเป็นที่พึ่งสุดท้ายที่หมายพึ่งได้เสมอ เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.อ.ภัทรพล ปัทมวงศ์ ผกก.สสน. บก.ป. นำชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมานกองปราบ” ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส รวม 80 นาย เปิดปฏิบัติการ “ขอนแก่นนราล่าปิดบัญชีแก๊งเรียกค่าไถ่โหด” ตรวจค้นเป้าหมาย 8 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ จ.ยะลา 3 จุด จ.นราธิวาส 4 จุด และ จ.ขอนแก่น 1 จุด กวาดล้างจับกุมขบวนการอุ้มเรียกค่าไถ่ทวงเงินยาเสพติด
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เผยว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 มีกลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธบุกเข้าไปอุ้มตัวนายเต๋า (นามสมมติ) ผู้เสียหาย จากบ้านในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พาไปกักขังไว้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งแล้วใช้กำลังทำร้ายร่างกายซ้อมทรมานจนเหยื่อบาดเจ็บสาหัส กระดูกซี่โครงหัก จากนั้นโทรศัพท์ติดต่อหาญาติพี่น้องเหยื่อให้นำเงินสด 5 แสนบาทมาให้เพื่อแลกกับการปล่อยตัวหากไม่ทำตามจะเอากรรไกรตัดหูเหยื่อให้ขาด หรือทรมานจนเสียชีวิต ญาติต่อรองจ่ายให้ก่อน 3 แสนบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยหามาให้ กลุ่มคนร้ายตกลงนัดหมายให้นำเงินมาส่งมอบให้ก่อน 3 แสนบาท เมื่อวันที่ 12 ก.ย. โดยให้นำเงินมาวางไว้ที่ด่านโกลก จ.นราธิวาส เมื่อได้รับเงินแล้วปล่อยตัวนายเต๋าทิ้งไว้ริมถนนห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร
...
ผบก.ป.กล่าวต่อว่า หลังนายเต๋าได้รับการปล่อยตัวกลุ่มคนร้ายยังโทรศัพท์มาข่มขู่อย่างต่อเนื่องเพื่อตามทวงเงินส่วนที่เหลืออีก 2 แสนบาท ด้วยความหวาดกลัวผู้เสียหายเร่งหาเงินมาให้ก่อน 1 แสนบาทเพื่อให้สถานการณ์เบาลง แต่กลุ่มคนร้ายยังคงพยายามข่มขู่ทวงส่วนที่เหลืออีก 1 แสนบาท ผู้เสียหายตัดสินใจแจ้งความไว้ที่ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส แต่เมื่อเห็นว่าคดีไม่คืบหน้าเกรงจะไม่ปลอดภัยนำเรื่องเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับกองปราบฯ
พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. กล่าวว่า หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบว่ามูลเหตุมาจากการที่ผู้เสียหายติดค้างเงินค่ายาเสพติดของ น.ส.กัญญ์วรา ช่างเรือนกุล เจ้าแม่ยาเสพติดรายใหญ่ขอนแก่น เป็นคนคอยเชื่อมต่อขบวนการยาเสพติดภาคอีสานกับภาคใต้กว่า 10 ล้านบาท น.ส.กัญญ์วราว่าจ้างแก๊งรับจ้างอุ้มทวงหนี้ประกอบด้วยนายอับดุลรอนิง สาแร๊ะ อายุ 39 ปี หัวหน้าแก๊ง นายแอนดี มามะ อายุ 33 ปี รองหัวหน้าแก๊ง น.ส.อามีเนาะ วงกะลา อายุ 32 ปี คนประสานงานและรับเงิน นายฐิติวิชญ์ กันต์ปวีร์ คนโทรศัพท์ทวงเงิน ส่วนใหญ่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ทหารพราน อาสาสมัคร และอดีตสมาชิกกลุ่มผู้ก่อความรุนแรงในพื้นที่มาก่อเหตุ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานจนนำมาสู่การออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 5 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยใช้วิธีทรมานทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำนั้นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยทรมาน หรือกระทำทารุณโหดร้าย”
จุดแรกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 992/59 ถนนประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส บ้านพักนายแอนดี ตามหมายจับศาลอาญา บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว เจ้าหน้าที่กระจายกำลังปิดล้อมตรึงพื้นที่รอบตัวบ้าน ส่วนนายแอนดีนอนหลับอยู่ในตัวบ้าน เจ้าหน้าที่เรียกให้เดินออกมาให้จับกุมปฏิบัติการดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังจับกุมนายอับดุลรอนิง สาแร๊ะ อายุ 39 ปี หัวหน้าแก๊ง ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.ยะลา พร้อมกับจับกุม น.ส.กัญญ์วรา ผู้จ้างวาน ได้ใน จ.ขอนแก่น และจับกุมนายฐิติวิชญ์ ได้ที่ จ.ยโสธร ส่วน น.ส.อามีเนาะจับกุมได้ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยึดปืนตามจุดต่างๆได้ 3 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง สอบสวนทั้ง 5 ราย ส่วนใหญ่ให้การรับสารภาพ มีบางส่วนที่ยังปากแข็งให้การปฏิเสธ นำตัวส่ง กก.6 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป