เลขาฯ ส.ป.ก.นำคณะลงใต้เยี่ยมวิสาหกิจชุมชนกาแฟบ้านโตนปาหนัน ชมเปาะยกระดับจากชุมชนเกษตรเป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สุดเข้มแข็ง

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 66 ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พร้อมด้วย นายวุฒิพงศ์ เนียมหอม, นายเอกพงศ์ น้อยสร้าง, นายสุรชัย ยุทธชนะ รองเลขาธิการ ส.ป.ก., นายภาชน์ จารุภุมมิก หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม, นายสมภพ ศรีเจริญ ผู้ตรวจราชการกรม, ผู้อำนวยการสำนัก/กอง/ศูนย์, ปฏิรูปที่ดินทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ลงพื้นที่ตรวจราชการพร้อมติดตามการดำเนินงานพื้นที่ขอใช้ที่ดินของ อบจ.สตูล ณ บ่อน้ำร้อนทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง พร้อมทั้งเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนกาแฟบ้านโตนปาหนัน (โกปี้บ้านโตน) ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.สตูล ที่มีความเข้มแข็ง สามารถผลิต แปรรูป จำหน่ายสินค้าภายในชุมชน โดยนำทุนชุมชนที่ประกอบด้วย ทุนมนุษย์ ทุนทางสังคม ทุนทางวัฒนธรรม ทุนทางธรรมชาติ ทุนทางการเงิน และวิถีการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย สร้างเสน่ห์จนสามารถยกระดับจากชุมชนเกษตรให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของ อ.ควนกาหลง จ.สตูล 

...

ดร.วิณะโรจน์ กล่าวว่า สำหรับ จ.สตูล อนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแล้วจำนวน 4,497 ราย 6,196 แปลง 40,134 ไร่ ครอบคลุม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ทุ่งหว้า อ.ละงู อ.เมืองสตูล อ.ควนโดน และ อ.ควนกาหลง ซึ่ง อ.ควนกาหลง อนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ต.ควนกาหลง และ ต.ทุ่งนุ้ย ที่เป็นที่ตั้งของวิสาหกิจชุมชนกาแฟบ้านโตน หมู่ที่ 5 ต.ทุ่งนุ้ย และเกษตรกรได้รับการจัดที่ดินไปแล้วจำนวน 42 ราย 54 แปลง เนื้อที่ 348 ไร่ และเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของวิสาหกิจชุมชนฯ กิจกรรมหลักของวิสาหกิจชุมชนจะประกอบด้วย 8 ฐานการเรียนรู้ ดังนี้ กาแฟโบราณ (โกปี้) ข้าวข้องไผ่ ขนมพื้นเมือง (ขนมกอเดาะ) ผักกูดในเขตปฏิรูปที่ดิน การใช้ประโยชน์จากสะบ้า สบู่โกปี้ออแกนิก แพทย์แผนไทย และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (ท่องป่าชมไพร คลองสายน้ำใสใต้โคนต้นหว้า) ซึ่งกิจกรรมในวันนี้จะมีการสาธิตการกระบวนการผลิตกาแฟโบราณ และการทำขนมกอเดาะให้แก่ทุกท่านที่มาเยี่ยมชม

ในการนี้ เลขาธิการ ส.ป.ก. ได้ชื่นชมการดำเนินงานของวิสาหกิจฯ ที่มีความเข้มแข็ง ยังคงรักษาวิถีชีวิตเป็นเสน่ห์ของชุมชนไว้ ทั้งนี้ ส.ป.ก. และหน่วยงานร่วมบูรณาการ พร้อมยินดีให้การสนับสนุนองค์ความรู้นอกเหนือจากภูมิปัญญาของชุมชน เพื่อให้เกษตรกรสามารถต่อยอดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของกลุ่มสืบทอดรุ่นต่อรุ่นได้อย่างยั่งยืนต่อไป.