รอง มทภ.4 เตือนกลุ่มการเมืองใน จชต.ที่เคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิ ให้มีการทำประชามติ ขอแยกตัวเป็นเอกราชของปัตตานี ขู่ ให้ระวังอย่ากระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง อย่าทำหินแตก อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าแยกแผ่นดิน 

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 66 พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาค 4 และคณะทำงานของกองทัพในคณะพูดคุยสันติสุขฯ ที่มี พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เป็น หน.คณะ ได้กล่าวระหว่างการร่วมประชุมกับคณะประสานงานระดับพื้นที่ หรือ สลชร.3 ที่มีแม่ทัพภาค 4 เป็นประธาน ซึ่งได้มอบหมายให้ พล.ต.ปราโมทย์ ชี้แจงกับคณะ สร.3 ให้เข้าใจถึงความก้าวหน้าของการพูดคุยสันติสุขที่ดำเนินการอยู่ โดยในปัจจุบันได้หยุดลงชั่วคราวเพื่อรอรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง 

พล.ต.ปราโมทย์ ได้กล่าวในช่วงแรกถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนนักศึกษาแห่งชาติ PELAJAR BANGSA ที่มี นายอิรฟาน อูมา เป็นผู้นำ ซึ่งในการเปิดตัวกลุ่มเป็นครั้งแรก ที่คณะรัฐศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กลุ่มได้เชิญนักวิชาการด้านสันติวิธีมาร่วมอภิปรายในหัวข้อเรื่อง "การกำหนดอนาคตตนเอง (Self Determinatiin) กับสันติภาพปาตานี" นอกจากนี้ มีการทำแบบสอบถามความเห็นของผู้ร่วมงาน เห็นด้วยกับ "สิทธิในการกำหนดชะตากรรมของตนเองหรือไม่" ที่จะให้ประชาชนปาตานีสามารถออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกกฎหมาย 

รอง มทภ.4 ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ว่า เป็นเรื่องการเรียกร้องกำหนดชะตากรรมของตนเอง ที่มีการเคลื่อนไหวใน จชต.มาตลอดช่วงที่ผ่านมา 

...

"ในเรื่อง RSD  RIGHT TO SELF-DETERMINATION หรือสิทธิในการกำหนดชะตากรรมของตนเอง มีการเคลื่อนไหวมานานหลายปีในพื้นที่ เป็นการเคลื่อนไหวในเชิงเปิด ไม่มีการแสดงออก จริงๆ แล้วไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ เป็นไปตามมติของ UN มติที่ 1514 ในปี 1960 ได้เขียนเพื่อให้ประเทศที่ถูกนักล่าอาณานิคมมีสิทธิในการกำหนดชะตากรรมของตนเองได้ ชะตากรรมของตนเองมีในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ เรื่องของการศึกษา ศาสนา และความเป็นอยู่ เป็นสิ่งที่เราจะดำเนินการได้ คำถามก็คือแล้วในวันนี้มีอะไรบ้างในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังไม่ได้รับ"

พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวทางการเมือง เคลื่อนไหวในเรื่องสิทธิเสรีภาพตามที่บัญญัติไว้ใน รธน. โดยไม่ไปละเมิดต่อกฎหมายและบูรณภาพแห่งดินแดนเป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ และยังได้กล่าวถึงการที่ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีสมาชิกในข้อมติดังกล่าวว่า ได้ตั้งข้อสงวนในเรื่องนี้ไว้แต่แรกของการเข้าไปเป็นภาคีสมาชิกตามข้อมตินี้ ว่า "การกำหนดชะตากรรมตนเองไม่ได้หมายรวมถึงการแบ่งแยกดินแดน เพราะว่าประเทศไทยเป็นอาณาจักรหนึ่งเดียวที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้"

รอง มทภ.4 เห็นว่าการเคลื่อนไหวและการแสดงออกทางการเมืองของกลุ่มต่างใน จชต. ต้องระมัดระวังในเรื่องของการไม่กระทำผิดกฎหมาย เป็นการกระทำที่อยู่ภายใต้กรอบสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยทั้งหมดหรือไม่ หรือ "เป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายต่อการละเมิดกฎหมายและบูรณภาพแห่งดินแดน เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ"

พล.ต.ปราโมทย์ ในฐานะรอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังกล่าวถึงสิ่งที่จะดำเนินการจากนี้คือการสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ในเรื่องการอยู่ร่วมกันของพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศภายใต้หลัก รธน.แห่งราชอาณาจักรไทย และในเรื่องที่สองคือการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดในระหว่างการจัดงาน มีการกระทำเข้าข่ายละเมิดผิดกฎหมายและบูรณภาพแห่งดินแดนหรือไม่ โดยได้แจ้งให้สมาชิก สร.3 ที่มาร่วมประชุมในวันนี้ช่วยประสานชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชนใน จชต.ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น

พล.ต.ปราโมทย์ ได้กล่าวในช่วงท้าย ฝากเป็นข้อคิดต่อการทำงานของกลุ่มต่างที่เคลื่อนไหวทางการเมืองใน จชต. ในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน สิ่งที่ต้องระวังคือ "ไม่กระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองและบูรณภาพแห่งดินแดน และอย่าทำหินแตก อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าแยกแผ่นดิน".