ผัวเมียขับกระบะรีบกลับบ้าน แต่ขับรถขึ้นเนินมองไม่เห็นรถสิบล้อที่วิ่งอยู่ด้านหน้า ประกอบกับมาด้วยความเร็วจึงพุ่งชนท้ายสิบล้ออย่างแรง สองคนผัวเมียเสียชีวิตทั้งคู่

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 1 เม.ย. 2566 พ.ต.ท.ยิ่งยง ช่วยกิจ สว.(สอบสวน) สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุรถกระบะชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสายเอเชียฝั่งขาขึ้น หมู่ 1 ต.ดุสิต หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย สายตรวจรถยนต์ พญ.รุจิเรศ เสวีพงศ์ แพทย์เวร รพ.ถ้ำพรรณรา จนท.กู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจถ้ำพรรณรา และ จนท.กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ทุ่งใหญ่ พร้อมเครื่องตัดถ่าง

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้าตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ถศ 4903 กรุงเทพมหานคร ชนอัดท้ายรถสิบล้อฮีโน่ สีเทาเขียว ทะเบียน 70-5304 เพชรบุรี สภาพพังยับเยิน ชิ้นส่วนอะไหล่รถตกกระจายเกลื่อนถนน หน้ารถกระบะห้องโดยสารพบนายก้องกาจ กาญจนา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 2 ต.ดุสิต อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช คนขับ ถูกอัดก๊อปปี้ติดคาพวงมาลัย ใบหน้าและศีรษะมีบาดแผล คอหักหมุนเสียชีวิตคาที่ ที่นั่งข้างคนขับพบผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิงทราบชื่อ น.ส.ดาริกา กาญจนะ อายุ 27 ปี ภรรยาคนขับอยู่บ้านเดียวกันได้รับบาดเจ็บสาหัส ศีรษะได้รับกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง กะโหลกแตก กระดูกซี่โครงหักทิ่มทะลุปอด เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำเครื่องตัดถ่างเข้าตัดซากรถ นำผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ถ้ำพรรณรา ในเวลาต่อ น.ส.ดาริกา ภรรยาคนขับได้เสียชีวิตลง ญาติทั้งสองฝ่ายทราบข่าวร้ายพากันมาดูศพถึงกับร่ำไห้ใจจะขาด

สอบสวนทราบว่า สองสามีภรรยามีอาชีพรับซื้อน้ำยางสดและค้าขาย ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่มาขายหม่าล่าอยู่ที่ตลาดถ้ำพรรณรา หลังขายเสร็จเก็บของขึ้นรถรีบกลับบ้าน ระหว่างทางนายก้องกาจขับมาด้วยความเร็ว ถึงที่เกิดเหตุเป็นทางขึ้นเนินไฟฟ้าส่องสว่างทางไม่มี ดูมืดมองไม่เห็นรถบรรทุกสิบล้อบรรทุกเศษเหล็กมาเต็มคันรถจาก จ.พัทลุง เพื่อไปส่งเข้าโรงงาน จ.ระยอง กำลังวิ่งอยู่ด้านหน้าอย่างช้าๆ เนื่องจากรถหนักบวกกับกำลังขึ้นเนิน รถที่นายก้องกาจขับมาด้วยความเร็วจึงพุ่งเข้าชนท้ายรถสิบล้ออย่างจังเกิดเสียงดังสนั่น ทำให้รถกระบะชนอัดติดท้ายรถสิบล้อพังยับเยิน เป็นเหตุให้คนขับรถกระบะเสียชีวิตคาที่ ส่วน น.ส.ดาริกาภรรยาไปเสียชีวิตที่ รพ.ถ้ำพรรณรา ส่วนนายพงศ์ประเสริฐ์ อายุ 40 ปี คนขับสิบล้อที่นั่งมากับนางจันทร์ ถือผล ภรรยาไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหนยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ

...

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน นำตัวนายพงศ์ประเสริฐ์คนขับรถสิบล้อ มาสอบปากคำไว้ก่อนรับเป็นคดียังไม่ได้แจ้งข้อหากับคนขับรถสิบล้อ เนื่องจากต้องรอสอบปากคำพยาน และรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด หากพบว่านายพงศ์ประเสริฐ์ประมาทมีความผิด ก็จะเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง จากนั้นได้ทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือก่อนปล่อยตัวกลับไป