ผจก. โรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ แจงเหตุนักเรียนชายวัย 15 ปี กระโดดตึกจากชั้น 4 หวังฆ่าตัวตาย พร้อมเปิดคลิปหลักฐานกล้องวงจรปิด ไร้คนผลักน้องตกตึก
จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองว่า ลูกชายของตัวเองที่เป็นนักเรียนชั้น ม.3 ได้ถูกบูลลี่และโดนทำร้ายร่างกายจนทำให้เกิดภาวะเครียดคิดมากจนต้องกระโดดตึกฆ่าตัวตายจากชั้น 4 ของตึกโรงเรียน เหตุเกิดภายในโรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งขณะนี้อาการของลูกชายบาดเจ็บสาหัสนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.)
ต่อมา วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้พบกับ นางจอย (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี แม่ของนายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะสอบถามอาการของนักเรียนรายนี้ ซึ่งทางคุณแม่แจ้งว่าอาการของน้องอยู่ในขั้นวิกฤติ และนอนรักษาตัวอยู่ในห้องอภิบาลผู้ป่วย MICU
ล่าสุดทางโรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ ได้มีการแถลงข่าวคลายประเด็นชี้แจงให้ผู้สื่อข่าวสิ้นข้อสงสัยหลังทางมารดาของนักเรียน ม.3 ที่กระโดดตึก ได้มีการตั้งประเด็นข้อสงสัยต่างๆ พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวไปดูยังตรงจุดเกิดเหตุบริเวณตึก 4 ชั้น ซึ่งเป็นตึกนักเรียนมัธยม โดยความสูงจุดที่น้องกระโดดนั้นมีความสูงประมาณ 15 เมตร ซึ่งพื้นด้านล่างเป็นพื้นกระเบื้อง ก่อนจะมีการเปิดหลักฐานกล้องวงจรปิด ขณะที่น้องได้เดินวนอยู่รอบๆ จุดที่กระโดดประมาณเกือบ 9 นาที ก่อนจะตัดสินใจกระโดดลงมาหวังฆ่าตัวตาย โดยที่ไม่มีนักเรียนผลักลงไปแต่แต่อย่างใด
...
ด้าน นายประยุทธ์ กาญจนแก้ว ผู้จัดการโรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ เปิดเผยว่า ตัวเองกับทีมงานไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเพราะเรารักลูกๆ ทุกคน ส่วนที่มีการพูดออกไปเชิงใส่ไฟหรือไม่เป็นความจริงเราก็ต้องเอาความจริงมาพูดกัน และเสียใจมากๆ ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ และต้องช่วยกันดูไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนทางด้านคุณแม่เราจะดูแลให้ดีที่สุด วันนี้จะไปเยี่ยม ทางคุณแม่ก็เดือดร้อนในการรักษาค่าพยาบาลต่างๆ โรงเรียนรับผิดชอบทั้งหมด หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของครูทุกคนที่ต้องช่วยกันดูแลนักเรียนรวมถึงเพื่อนสนิทของเขาที่นั่งร้องไห้ไม่หยุดหลังจากที่มีการเข้าไปถามอาการ
ผู้จัดการโรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ กล่าวอีกว่า ทางตนเองก็จะคุยกับสาธารณสุขสงขลา มีการเจาะลึกไปถึงเรื่องจิตใจ เพราะปัญหาสังคมหลายๆ อย่างเด็กอาจเครียดได้ หลังจากนี้ก็จะให้ฝ่ายสถานที่ไปลงพื้นที่ตรวจดูว่า พื้นที่ไหนสามารถกั้นได้บ้างเราก็จะกั้น ในส่วนของกล้องวงจรปิดจุดใดที่ยังไม่สมบูรณ์ก็จะมีการติดเพิ่ม ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่กล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนที่บันทึกภาพไว้ได้เพิ่งซ่อมเสร็จ จึงทำให้รู้เหตุการณ์ ไม่งั้นก็จะจินตนาการไปได้ว่าเด็กโดนทำร้าย พอมารู้ความจริงก็คือไม่ใช่
ด้าน นายพิเชษฐ์ ชูดำ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการระดับมัธยม โรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ เปิดเผยว่า ตอนนี้ในส่วนของมาตรการเร่งด่วน ขณะนี้ ในกลุ่มเด็กเราให้หัวหน้าระดับชั้นเช็กข้อมูลส่วนตัวของเด็ก ม.1-ม.6 เพื่อที่จะดูข้อมูลย้อนหลังของนักเรียน เพื่อเช็กว่าใครมีอาการแบบนี้บ้างจะได้แยกออกและมีการพูดคุยกันทั้งนักเรียน-ผู้ปกครอง ส่วนมาตรการโรงเรียนที่เราจะกั้นระเบียงก็ต้องมาดูกันว่าภูมิทัศน์ของโรงเรียนจะเป็นยังไง เรามีมาตรการอยู่แล้วได้คุยกันบ้างแล้ว ในตอนนี้ข้อมูลที่ผมมีอยู่ 1 คน ที่มีอาการคล้ายกันเป็น ผญ. 1 คน เราก็เก็บข้อมูลและทำการพูดคุย สาเหตุแต่ละคนไม่เหมือนกันแตกต่างกัน บางคนซึมเศร้าและเก็บตัวจากการติดเกม
รองผู้อำนวยการระดับมัธยมฯ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการบูลลี่ก็จะมีบ้างที่เด็กพูดหยอกล้อกัน ส่วนในเรื่องของการแกล้งกันผมก็จะต้องไปดูในบันทึกประวัติอีกครั้ง เพราะเรามีฝ่ายปกครอง ในระดับฝ่ายปกครองเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาครูประจำชั้นหรือหัวหน้าระดับจะเป็นคนทำบันทึกเหตุการณ์นั้นขึ้นมาและให้หัวหน้าระดับชั้นของโรงเรียนมีการบันทึกคะแนน เช่น คะแนนเกิน 30 คะแนนขึ้นไป เราก็จะเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยก่อน พอ 50 คะแนน หัวหน้าระดับชั้นจะส่งมาที่ผม ก็จะทำการตักเตือนไปบางครั้งก็ต้องมีการพักการเรียนไปตามระเบียบของกระทรวง
...
นายพิเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า แล้วที่คุณแม่ว่ามีการแกล้งน้อง เราก็ต้องมาดูบันทึกว่ามีในส่วนนี้ไหม บางครั้งเราก็ไม่ได้รู้ถ้าเด็กไม่มาสื่อสารหรือบอก ส่วนในการดูแลเด็กที่โรงเรียนนี้ผมมั่นใจว่าค่อนข้างโอเค โรงเรียนเปิดมา 60 กว่าปี ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเลย ส่วนในเรื่องที่น้องเครียดผมก็ไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามาจากเรื่องใด เพราะตอนเช้าน้องก็ยังตอบปัญหาหน้าเสาธงได้อย่างปกติ พูดตอบคำถามรับรางวัลอย่างสนุก หน้าตาน้องก็ปกติ มีนักเรียนบันทึกคลิปไว้ ไม่ได้แสดงอาการในตอนนั้น ในส่วนของทางโรงเรียนก็มีสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดโรงเรียนในพื้นที่ดูแลก็เข้ามา ประธานผู้ปกครองก็เข้ามาแล้ว.