เกษตรกรชาวสวนยางพาราที่บ้านทำเนียบ จ.สุราษฎร์ธานี รวมตัวกันปลูกกล้วยหอมทอง เป็นกล้วยแปลงใหญ่ในร่องยางพาราต้นเล็ก หวังเป็นพืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ 4-5 หมื่นบาทต่อไร่ระหว่างรอต้นยางโตพร้อมกรีด

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรชาวสวนยางพารา ในพื้นที่ ตำบลบ้านทำเนียบ รวมตัวกันปลูกกล้วยหอมทอง เป็นกล้วยแปลงใหญ่ในร่องยางพาราต้นเล็ก สร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวก่อนยางเปิดกรีด ส่งให้โรงงานสัปดาห์ละ 2.5 ถึง 3 ตัน 

นายธรรมรัตน์ โภคัย อายุ 39 ปี เกษตรกรบ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เข้าตกแต่งเครือและเก็บกล้วยหอมทอง ที่ปลูกระหว่างร่องต้นยางพาราขนาดเล็ก พืชเศรษฐกิจหลักของครัวเรือน เพื่อสร้างรายได้ก่อนที่ยางแปลงนี้จะเปิดกรีด แต่ก็ทำรายได้ให้ตนเอง และเพื่อนเกษตรกรในพื้นที่ ที่รวมกลุ่มปลูกเป็นแปลงใหญ่ซึ่งก็มีทั้งที่ปลูกแซมต้นยางพาราเล็ก ต้นปาล์มน้ำมันเล็ก และทุเรียน ระยะเวลาปลูกประมาณ 3-4 ปี ก่อนเก็บผลผลิตพืชหลัก

...

นายธรรมรัตน์ กล่าวว่า ก่อนที่จะเก็บผลผลิตจากยางพาราที่ปลูกใหม่ได้ จึงคิดลองปลูกกล้วยหอมทองในร่องส่วนยางพาราที่มีอายุประมาณ 1 ปี ครั้งแรกปลูกเพียงไม่กี่ต้น เมื่อให้ผลผลิตแล้วจึงลองนำไปขายดูได้รับความสนใจจากผู้บริโภค หลังจากนั้นจึงได้รวมกับเกษตรกรในพื้นที่ รวมกันปลูกจนปัจจุบันเป็นแปลงใหญ่กล้วยหอมทอง มีสมาชิกกว่า 20 ราย มีพื้นที่ปลูกกว่า 100 ไร่ ส่วนใหญ่จะปลูกในร่องสวนยางพารา ปาล์มน้ำมันและสวนทุเรียนที่มีอายุยังน้อย ใน 1 สัปดาห์จะตัดกล้วยหอมทองเพื่อส่งโรงงาน 2.5-3 ตันต่อสัปดาห์ ได้รับราคาประกันจากโรงงานกิโลกรัมละ 12 บาท สร้างรายได้ให้เกษตรกร 4-5 หมื่นบาทต่อไร่ต่อปี

เกษตรกรบ้านทำเนียบ กล่าวต่อว่า ส่วนใหญ่เกษตรกรรายอื่นจะเก็บกล้วยไว้เต็มเครือ (7-8 หวีต่อเครือ) แต่ที่สวนของตนจะเหลือไว้เพียง 4 หวีเท่านั้น เพื่อให้ได้ลูกที่สมบูรณ์ และลดต้นทุนแรงงานและค่าทำไม้ค้ำยันต้นกล้วยไม่ให้ล้ม จากน้ำหนักที่มากขึ้นจากจำนวนหวี และทำให้กล้วยมีผลที่เท่ากันเป็นที่ต้องการของโรงงาน เพราะกล้วยที่โรงงานซื้อ มีข้อกำหนดเส้นรอบวงและความยาว ทำให้กล้วยหอมทองของสมาชิกเป็นที่ต้องการของโรงงาน



นายธรรมรัตน์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในการตัดกล้วยในแต่ละรอบ ทางสมาชิกจะตัดต้นเพียงส่วนที่เอาผลผลิตออกไม่ถึงโคนต้นกล้วย เพราะในกล้วยหนึ่งต้นจะมีน้ำสะสมอยู่ภายในต้นกล้วย อย่างน้อย 10 ลิตรต่อต้น ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น ซึ่งน้ำที่อยู่ในต้นกล้วยจะสามารถนำไปหล่อเลี้ยงต้นใหม่ที่กำลังเจริญเติบโตโดยเฉพาะในหน้าแล้งจะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำให้กับต้นกล้วยได้ กล้วย 1 ตันที่ตัดแล้วจะมีน้ำไหลออกจากต้นกล้วยประมาณ 3 เดือนจึงจะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยต่อไปอีก.