อีโอดี ตรวจระทึกกว่า 1 ชั่วโมง รถกระบะที่ถูกปล้นจากยะลามาพร้อมเด็กในรถ 3 คน ก่อนปล่อยเด็กที่โกตาบารู ขับต่อมาจอดทิ้งไว้ที่บาเจาะ นราธิวาส พบน้ำมันหมด ไม่มีวัตถุระเบิดซุกซ่อนในรถ แจ้งผู้เสียหายมารับคืนแล้ว เจ้าของเผยชอบจอดโดยไม่ดับเครื่องถือเป็นบทเรียน ส่วนเด็กๆ ก็เสียขวัญ ใครถามถึงคนร้ายจะร้องไห้
เวลา 09.30 น. วันที่ 14 พ.ย. 65 พ.ต.อ.ลุกมาน บาเกาะ ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้ประสานไปยังชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส มาทำการตรวจสอบรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิซิ สีขาว ทะเบียน ญผ 3672 กทม.ที่ถูกคนร้ายปล้นจากนายฮาฟิซ อาแว อายุ 31 ปี ขณะจอดซื้อสินค้าที่ร้านข้าวตรงข้ามร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น สาขาวิฑูรอุทิศ บริเวณตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา
พบรถ คนร้ายได้นำมาจอดทิ้งไว้บริเวณปากทางเข้าตลาดนัดร้าง ซึ่งอยู่ตรงข้ามเยื้องกับทางเข้ามัสยิด 300 ปี บ้านตะโละมาเนาะ ม.1 ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ ซึ่งมีชาวบ้านพบเห็นเมื่อเวลา 20.36 น. วันที่ 13 พ.ย. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มาตรวจสอบและกันพื้นที่ไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบในช่วงเช้าของวันนี้
...
ต่อมา พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส น.ท.อภิวัฒน์ แสงสว่าง รอง ผบ.ฉก.ทพ.นย. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมตรวจสอบรถยนต์กระบะคันที่ถูกปล้น โดยได้ปิดกั้นถนนทั้งขาเข้าและขาออก เกรงเกิดอันตรายหากคนร้ายแอบซุกระเบิดไว้ จากการตรวจสอบใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงแบบทุกซอกทุกมุม ไม่พบว่าคนร้ายได้แอบนำระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนไว้แต่อย่างใด แต่พบว่ารถน้ำมันเชื้อเพลิงหมด คนร้ายจึงนำไปจอดทิ้งไว้ข้างทาง
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้ตรวจเก็บคราบลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย ที่มีคราบติดอยู่ที่พวงมาลัย เบาะนั่ง กระจกประตูด้านคนขับ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับบุคคลในสารบบความมั่นคง รวมทั้งประวัติในทะเบียนราษฎร์ เป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวคนร้าย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงมาเติมใส่รถ และมอบรถยนต์กระบะคืนกับนายฮาฟิซ เจ้าของรถนำกลับไป หลังจากระบวนการตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เสร็จสิ้น
ด้านนายฮาฟิซ อาแว เจ้าของรถยนต์ เผยว่า ขับรถออกจากบ้านใน อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ไปถึงยะลาช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ไปส่งลูกน้องเสร็จประมาณ 12.30 น. จึงจอดรถและลงมากับแม่ยาย 2 คน โดยมีลูกและหลานรวม 3 คน รออยู่ในรถ แวะซื้อข้าวประมาณ 5 นาที หันมาอีกทีรถหายไปแล้ว
“ผมสังเกตว่าผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในร้านน้ำชา ตอนที่ผมลงจากรถ ผมเห็นแกมองมาที่รถอยู่ พอทราบว่ารถหายผมก็โทรแจ้ง 191 ก่อน และขอดูกล้องจากร้านข้างๆ พบว่าคนร้ายขับรถไปทางสวนส้ม อีกครึ่งชั่วโมงตำรวจมารับผมไปที่ สภ.เมืองยะลา และแจ้งผมว่า เด็กทั้ง 3 คน คนร้ายได้นำมาทิ้งไว้ที่โกตาบารู แล้วตำรวจโกตาบารูนำมาส่งให้ ปกติผมเป็นคนจอดรถไม่ค่อยดับเครื่องยนต์อยู่บ่อยๆ ถือว่าเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ส่วนเด็กขวัญกำลังใจเริ่มดีขึ้น จากเมื่อคืนที่ผ่านมา เด็กมีอาการกลัวเอามากๆ ห้ามถามหรือพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แกจะร้องไห้ จึงฝากเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง และขอบคุณโลกโซเชียลที่ช่วยกระจายข่าวจนได้รถยนต์กลับคืนมา”