เจ้าของโรงแรมดังเกาะสมุยที่ถูกยกเค้าไป 70 ล้าน วอนตำรวจช่วยดูแลทรัพย์สินให้ผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น หลังถูกคนร้ายบุกเข้าไปขโมยทรัพย์สินมีค่า เพราะหลังผู้เช่าเดิมหมดสัญญาก็ไม่ได้เข้าไปดำเนินการ ปิดทิ้งไว้ในช่วงสถานการณ์โควิด ล่าสุดจับคนร้ายก่อเหตุได้ 6 ราย
เมื่อวันที่ 5 ก.ย.65 จากกรณี คุณป้ายมนา พูลสวัสดิ์ เจ้าของโรงแรมบลูลากูน เดอะทีค วิง ได้เข้าแจ้งกับ พ.ต.ท.โคจร ลาน้ำเทียง สว.สอบสวน สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนหน้านี้ว่าได้มีคนเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในโรงแรมจนทรัพย์สินสูญหายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งทรัพย์สินที่ถูกรื้อขโมยไปเช่น สายไฟ ราวบันได ลิฟต์ และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ

ล่าสุดในวันนี้ พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน นายรัชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ได้เดินทางไปตรวจสอบความเสียหายที่โรงแรมดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อเก็บข้อมูลหลักฐาน ร่วมถึงได้สั่งการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อจะได้เร่งติดตามผู้ที่คาดได้เข้าไปขโมยทรัพย์สินในโรงแรมดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบในพื้นที่โรงแรมดังกล่าว พบว่าสิ่งของที่มีค่าหลายรายการถูกขโมยไป ไม่เว้นแม้กระทั่งโถส้วม
...

ขณะที่ คุณป้า ยมนา พูลสัวสดิ์ เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวที่ได้รับความเสียหายมีเนื้อประมาณ 18 ไร่ โดยเมื่อปี 2533 ได้มีนักธุรกิจชาวต่างชาติมาขอเช่าสร้างเป็นโรงแรม โดยทำสัญญาเช่าระยะยาวถึง 30 ปี ก่อสร้างโรงแรมจำนวน 348 ห้อง มูลค่าร่วม 400 ล้านบาท แต่เมื่อปี 2563 ได้ครบกำหนดสัญญาเช่า ก็ไม่ได้มีการดำเนินการเช่าต่อจนหมดสัญญา โดยในสัญญาเช่าระบุว่าหลังหมดสัญญาเช่า ทรัพย์สินที่เป็นส่วนของอาคารทั้งหมดจะตกเป็นของเจ้าของที่ที่ให้เช่า หลังหมดสัญญาเช่า คุณป้ายมนา ก็ได้เข้าไปตรวจสอบในโรงแรมก็พบว่าในส่วนของตัวอาคารก็มีความเรียบร้อยดี ยกเว้นในส่วนของห้องพัก ร่วมถึงเครื่องเฟอร์นิเจอร์ภายในโรงแรมที่ได้มีการขนย้ายออกไปก่อนที่จะหมดสัญญาเช่า

แต่เมื่อหมดสัญญาเช่าก็ได้ปิดโรงแรมไว้โดยมีรั้วกันบริเวณปากทางเข้าโรงแรมไม่ให้คนเข้าไป หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โรงแรมก็มีความพร้อมที่จะกลับมาเปิดให้บริการได้อีก ซึ่งโรงแรมก็ได้ปิดไว้นานหลายเดือน และไม่มีคนเฝ้า ก็เคยเข้าไปตรวจดูบ้าง ก่อนหน้าก็พบสายไฟในตัวอาคารถูกตัด ก็ยังไม่ติดใจ จนได้ไปเห็นอีกครั้งว่า ได้มีคนเข้าไปรื้อตัดเหล็ก ทรัพย์สินที่มีค่าออกไป โดยประเมินค่าความเสียหายประมาณ 70 ล้านบาท จึงต้องเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

"ฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจอยากให้ช่วยดูแลทรัพย์สินให้กับผู้ประกอบการที่ยังไม่กลับมาเปิดให้บริการ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ หรือนักลงทุนชาวไทยจะได้มีความเชื่อมั่น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบการ" คุณป้ายมนากล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามผู้ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด เปิดเผยว่า หลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความกรณีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.ร.มน.ภ.4 ได้ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดในครั้งนี้มาได้แล้วจำนวน 6 คน พร้อมยึดทรัพย์สินของกลางที่ถูกขโมยไปได้แล้วบางส่วน และยึดพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุในครั้ง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และยังดำเนินการสืบสวนว่ามีผู้ร่วมขบวนการก่อเหตุในครั้งนี้เพิ่มเติมบางอีกหรือไม่.
...