ฝันเป็นจริง หนุ่มกระบี่ฝันเห็นหญิงนุ่งขาว เฝ้าสมบัติจะกลับไปสวรรค์ อยากให้สิ่งของบางอย่าง จึงได้เดินทางไปเขาควนเคี่ยม พบกับก้อนหินไม่หนักและกลวงนำกลับบ้านทุบแตกพบเป็น "เหล็กไหล" งอกในหิน คนรู้ข่าวขอซื้อ 5 หมื่นเแต่ไม่ขาย เชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นของมงคลจึงขอเก็บก่อน
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 65 ที่ จ.กระบี่ มีชาวบ้านในพื้นที่ ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ เจอก้อนหินเนื้อภายในเป็นวัตถุลักษณะแปลกตาคล้ายแร่บางอย่างมีสีดำมันวาว ผู้สื่อข่าวจึงไปพบกับนายริน รักษ์วงศ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 หมู่ 4 ต.เขาดิน อ.เขาพนม ซึ่งเป็นคนพบหินดังกล่าว ก่อนนำก้อนหินออกมาให้ดู เป็นหินมีน้ำหนักประมาณ 5 กก. มีผิวนอกสีเหลือง และด้านในกลวง ที่ผิวด้านในพบว่าเป็นแร่บางอย่างมีสีดำมันวาวคล้ายเหล็กไหล ต่อมานายริน ได้ถ่ายรูปส่งไปโพสต์ในกลุ่มผู้นิยมเหล็กไหลต่างก็บอกว่า เป็นเหล็กไหลงอก ซึ่งก็จะหาได้ยากและยังมีราคาสูงด้วย
นายริน เผยว่า ตนเองไปเจอก้อนหินดังกล่าวเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยตนฝันว่ามีผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาวบอกว่า เป็นคนเฝ้าสมบัติ แต่ตอนนี้จะกลับไปสวรรค์จึงอยากให้ไปเอาสิ่งของบางอย่างบนเนินเขาชื่อ "ควนเคี่ยม" เป็นพื้นที่เนินสูง ในสวนปาล์มน้ำมัน เมื่อไปจุดที่ฝัน ก็พบก้อนหินดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กับตอไม้ ที่เป็นจุดที่ชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นที่อยู่ของเจ้าที่ ก็เลยนำกลับมาบ้าน แต่สังเกตดูแล้วพบว่าก้อนหินไม่หนักและกลวง จึงลองทุบจนแตกก็พบว่าภายในเป็นเหล็กไหลดังกล่าว หลังจากตนโพสต์ในกลุ่มเหล็กไหล ก็มีคนที่ชื่นชอบเดินทางมาที่บ้านของตนทันที และได้ขอซื้อในราคา 5 หมื่นบาท แต่ตนยังไม่ขาย ขณะนี้ส่งไปให้เซียนที่อยู่ในวงการดู ก็บอกว่าเป็นเหล็กไหลของแท้ เรียกกันว่า "เหล็กไหลงอก" เบื้องต้นจะเก็บไว้ก่อนเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นมงคลด้วย
...
นายริน เผยอีกว่า สำหรับจุดที่เจอนั้นถือเป็นจุดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือเพราะมีเจ้าที่เจ้าทางอยู่ตรงนั้น เมื่อปี 2530 หรือกว่า 30 ปีมาแล้ว พื้นที่บนควนเคี่ยม มีการสัมปทานตัดไม้ มีทั้ง ไม้เคี่ยม ไม้หลุมพอ นำออกไปขาย คนสัมปทานใช้รถแบ็กโฮขนาดใหญ่เข้ามาปรับพื้นที่ มาถึงจุดดังกล่าว ปรากฏว่าได้มีงูบองหลา หรืองูจงอางขนาดใหญ่ ออกมาขวางหน้ารถแบ็กโฮ ทำให้ถูกรถทับ แต่งูกลับไม่ตายเลื้อยขึ้นไปบนเนินข้างต้นเคี่ยมขนาดใหญ่กว่า 3 คนโอบ และก็ตายลงตรงจุดดังกล่าว ส่วนต้นเคี่ยมต้นนั้นคนงานได้เลื่อยจนขาด แต่ก็ไม่ตายจนผ่านมากว่า 20 ปี จึงยืนต้นตายไปเอง ส่วนรถคันที่ทับงูตาย ต่อมาลงไปในลำห้วย ก็ถูกโคลนดูดจมหายไปจนถึงปัจจุบัน ส่วนคนขับ ก็สติแตกเป็นบ้าไปด้วย เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงที่ชาวบ้านในพื้นที่รับรู้มาตลอดและเล่าสู่กันมานานกว่า 30 ปีแล้วด้วย.