เกิดเหตุรถทัวร์โดยสาร 2 ชั้น ร่วม บขส.สุราษฎร์ธานี - กรุงเทพฯ พลิกคะแคงข้างริมถนนสายเอเชีย 41 ในพื้นที่ อ.สวี จ.ชุมพร เบื้องต้นบาดเจ็บ 23 ราย อาการสาหัส 3 ราย คาดยางระเบิด ตร.เร่งสอบสวนแล้ว
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 14 ส.ค. 65 พ.ต.ท.ชยณัฐ คำภาพันธ์ สว.(สอบสวน) สภ.สวี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารเสียหลักพลิกตะแคง มีผู้โดยสารบาดเจ็บหลายราย ที่ริมถนนสายเอเชีย 41 หลัก กม.ที่ 38 ตรงข้ามด่านศุลกากร ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ชุมพร ตำรวจทางหลวง รถกู้ชีพโรงพยาบาล สวี ทุ่งตะโก หลังสวน และหน่วยกู้ภัยกู้ชีพมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ รวมกว่า 10 คัน รีบออกให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งขาขึ้น พบรถทัวร์สองชั้น ยี่ห้อสแกนเนีย (Scania) สีฟ้าขาว ทะเบียน 14-2182 กรุงเทพมหานคร ป้ายเหลือง เป็นร่วม บขส.สุราษฎร์ธานี - กรุงเทพมหานคร ที่กระจกหลังรถติดสติกเกอร์ กรุงสยามทัวร์ 993-3 สภาพพลิกตะแคงซ้ายได้รับความเสียหาย ผู้โดยสารออกจากตัวรถมานั่งอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนหลายราย พร้อมกระเป๋าสัมภาระพนักงานรถทัวร์นำออกจากรถมากองรวมกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย หน่วยกู้ภัยกู้ชีพเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลสวี 7 ราย โรงพยาบาลหลังสวน 4 ราย และทุ่งตะโก 12 ราย รวมผู้บาดเจ็บทั้งหมดจำนวน 23 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร พบว่าบนขอบทางมีร่องรอยถูกชนก่อนเสียหลักพลิกตะแคงข้าง
...
สอบถาม นายนิวัตน์ ชนาพงษ์จารุ อายุ 57 ปี คนขับรถทัวร์ ทราบว่ารับผู้โดยสารทั้งหมด 31 คน รวมคนขับและเด็กรถ รวมทั้งหมด 33 คน มาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลายทางกรุงเทพมหานคร เมื่อถึงที่เกิดเหตุยางล้อหน้าข้างขวาระเบิด ทำให้รถเสียหลักพลิกตะแคง จนมีผู้โดยสารบาดเจ็บดังกล่าว
ผู้โดยสารรายหนึ่งเล่าว่าขณะนั้นนั่งอยู่ชั้นล่าง ได้ยินเสียงระเบิดดัง แล้วคนขับพยายามประคองรถก่อนจะพลิกคว่ำตะแคง
ขณะที่ นายสุชิน จันทร์ปาน ป้องกันจังหวัดชุมพร ซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุ กล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 23 คน มีอาการสาหัส 3 คน (สีแดง) รักษาตัวที่โรงพยาบาลหลังสวน และโรงพยาบาลทุ่งตะโก ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บกระจายกันอยู่โรงพยาบาลสวี ทุ่งตะโก และโรงพยาบาลหลังสวน ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บรวมคนขับและพนักงานติดรถทั้งสิ้น 12 คน
ป้องกันจังหวัดชุมพร กล่าวด้วยว่า สำหรับสาเหตุนั้นยังไม่แน่ชัด ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอีกครั้ง แม้ทราบเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยแจ้งว่าน่าจะเกิดจากยางระเบิด แต่ทั้งนี้ต้องพิสูจน์ก่อนว่าสาเหตุมาจากสิ่งใด.