สาวสิงคโปร์ขับเก๋งวีออสพร้อมเพื่อนร่วมชาติ 4 คน วิ่งมาถึงช่วงโค้งหักศอก เกิดเสียหลักพุ่งชนประสานงารถบัส ดับ 1 สาหัสอื้อทั้ง 2 คัน ตำรวจเร่งตรวจกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุ
เมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 12 ส.ค. 65 ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ประคองเกื้อ รอง สว.สอบสวน สภ.กะรน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถบัสรับส่งนักท่องเที่ยวบริเวณเนินเขากะตะ โค้งพลับพลา ถ.ปฎัก ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคนติดอยู่ภายในซากรถ จึงพร้อมด้วย ร.อ.เจด็จ วิชรศรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกะรนนำหน่วยกู้ชีพเทศบาล-ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต (ไข่มุก) และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำอุปกรณ์ตัดถ่างรุดไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนขนาด 4 ช่องเลน และเป็นทางลาดชันขึ้นลงเนินเขา พบรถบัสขนาด 20 ที่นั่ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว รุ่นน Coaster ทะเบียนป้ายเหลือง 31-4317 ภูเก็ต มีนายอนิรุธ โฉมเชิด อายุ 32 ปี เป็นคนขับ ภายในรถมีไกด์ชายชาวเกาหลีใต้ 1 คน และล่ามแปลภาษาอีก 1 คน สภาพรถถูกชนด้านขวาและฝั่งคนขับพังเสียหาย หัวรถพุ่งเปลี่ยนไปอีกเลน ใกล้กันพบรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขจ 2985 ภูเก็ต ภายในรถมีผู้บาดเจ็บเป็นชาวสิงคโปร์ ชาย 2 หญิง 2 ราย ถูกอัดก๊อบปี้ติดอยู่ภายในรถ โดยสภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน หน่วยกู้ภัยเร่งใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำผู้บาดเจ็บออกจากตัวรถเก๋ง 4 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 3 รายจากรถบัส แยกกันนำส่ง รพ.ฉลอง รพ.วชิระภูเก็ต และ รพ.ป่าตอง อย่างเร่งด่วน โดยมี น.ส.Ho Jia Hui Renee อายุ 21 ปี ชาวสิงคโปร์เป็นคนขับรถเก๋งคันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.วชิระภูเก็ต
...
จากการสอบสวนพยานแวดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถบัสคันดังกล่าวได้ไปส่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ แล้วกำลังขับกลับมายังพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง ขณะเดียวกันรถเก๋งโตโยต้าวีออสขับมาจากตัวเมืองภูเก็ตกำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ ต.กะรน อ.เมือง เพื่อกลับที่พัก เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางลาดชันและโค้งหักศอก รถอาจเสียหลักข้ามเลนมา ทำให้พุ่งชนเกือบประสานงาบริเวณตัวรถด้านขวารถบัส ประตูด้านคนขับพังยับ ส่งผลให้คนขับรถเก๋งเสียชีวิตจากแรงกระแทกและคนภายในรถถูกแรงจากการชนอัดก๊อบปี้ติดอยู่ภายในรถบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง.