หลวงเอ เจ้าของฉายาอ้ายคล้าว เมืองตรัง ขี่ควายเข้าเมือง มากินหมี่เย็นตาโฟแยกวงเวียนหอนาฬิกา ทำเอาชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจอดรถถ่ายเซลฟี่ตลอดทาง เผยเป็นควายของนายการุณ ทองหนัน สมาชิก อบจ.ตรัง

จากกรณีมีเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ เกษรีย์ ลูกหมี แชร์ข้อความพร้อมโพสต์ภาพ #บุญตายิ่งนักเรื่องของเมื่อคืน 5555 มีชายคนหนึ่งขี่ควายมาจากนาโยง มากินหมี่ร้านโกยวดใต้โรงเเรมตรัง ควายคุ้นมาก...พอถึงร้านล้ำควายกับเสาไฟฟ้าสว่างบนเกาะกลาง...เริ่ดจริงๆ

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียล ต่างมีการแชร์คลิปวิดีโอ มีชายรายหนึ่งขี่ควาย ติดไฟแดงบริเวณวงเวียนหอนาฬิกา ถ.พระราม 6 ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองตรัง ก่อนนำควายไปผูกล่ามที่เกาะกลางถนนและเดินไปนั่งกินบะหมี่เย็นตาโฟชื่อดัง ร้านโกยวด ด้านข้างโรงแรมตรัง หลังจากที่คลิปเผยแพร่ออกไป ต่างสร้างความประหลาดใจ หลายคนคอมเมนต์และตื่นเต้นกับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

...

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางตามหาควายและคนขี่คนดังกล่าว ทราบว่าควายเป็นของนายการุณ ทองหนัน ส.อบจ. เขต 2 อ.นาโยง จ.ตรัง จึงเดินทางเข้าไปสอบถามก่อนพบ นายสมเกียรติ ขวัญหม้ง หรือหลวงเอ ฉายา “อ้ายคล้าว เมืองตรัง” อายุ 43 ปี กำลังดูแลควายคู่หูตัวดังกล่าวชื่อ ‘เจ้าใบเงิน’ อายุ 4 ปีเศษ เพศผู้ อย่างทะนุถนอม ด้วยความรัก ก่อนที่จะขี่ควายบนถนน และภายในนาข้าวโชว์ผู้สื่อข่าว พร้อมทั้งชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปมาต่างแวะถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก

โดยควาย ‘เจ้าใบเงิน’ มีลักษณเด่น ตามอัตลักษณ์ควายไทยที่เรียกว่า “เบญจลักษณ์” ลักษณะมี 5 ประการ คือมีลักษณะตาแต้ม แก้มจ้ำ มีสร้อยคอหรืออ้องคอสองถึงสามเส้น มีกะพี้ที่ตา คิ้วสองด้าน แก้มสองด้าน ตรงกรามสองจุดฝั่งตรงข้ามกัน และมีจุดสีขาวด้านใต้ ปล้องขาดำ ตำแหน่งที่คั่นสีดำอยู่บริเวณรอยต่อข้อเท้ากับเท้า มีถุงเท้าขาว สูงใหญ่ กระดูกใหญ่หนังหนา ลำตัวยาว ส่วนกระดูกโคนหางใหญ่และยาว

นายสมเกียรติ หรือหลวงเอ เปิดเผยว่า ที่ตนขี่ควายไปหอนาฬิกาตรังนั้น ระยะทางจากบ้านไปในเมืองตรังไปกลับกว่า 40 กม. เพื่อตนอยากสร้างสีสันให้กับจังหวัดตรัง และก็ลองคิดตามว่าถ้าฉากหลังเป็นหอนาฬิกาและมีคนขี่ควายมันจะสวยขนาดไหน ยังไม่เคยมีใครเคยทำ อีกอย่างตอนนั้นตนเองไม่มีรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ แล้วเกิดอยากกินหมี่เย็นตาโฟด้วยเป็นร้านของเพื่อนตัวเอง ซึ่งตลอดเส้นทางมีคนขอถ่ายรูปเยอะ นอกจากนี้ตนยังขี่ไปเที่ยวที่ตลาดชินตา

หลวงเอ คนขี่ควายเข้าเมือง กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามก็มีบางคนใช้คำพูดที่ทิ่มแทงใจ เข้ามาทักว่าเจ้าใบเงินมีราคาหลายแสน และกล่าวหาตนว่าขโมยควายมา ตนตอบกลับไปว่าหากขโมยมาจริงจะขี่ควายเข้าเมืองทำไม เพราะมีกล้องวงจรปิดเต็มทั่วเมือง ขณะเดียวกันระหว่างที่ตนขี่ควายอยู่ผ่านห้างสรรพสินค้าโรบินสันตรังก็มีคนแวะถ่ายรูปและให้เงินมา 100 บาท เพื่อให้เป็นค่าอาหารควายอีกด้วย ซึ่งก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยว และผู้พบเห็น เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีทองกวาวในชีวิตจริงไม่ หลวงเอก็กล่าวแบบติดตลกมาว่าทองกวาวยังไม่เกิด

...

ขณะที่ นายการุณ ทองหนัน สมาชิก อบจ.ตรัง เจ้าของควาย กล่าวว่า ตนซื้อเจ้าใบเงินมาจากจังหวัดสงขลาในราคา 43,000 บาท เลี้ยงมาได้ 3 ปีกว่าแล้ว โดยมีแรงบันดาลใจเนื่องจากตนเห็นควายเผือกตอนไปทำงานในพื้นที่ตำบลนาโยงใต้แล้วเกิดชอบอยากได้ จนมีโอกาสไป จ.สงขลาก็เจอเจ้าใบเงิน จึงเกิดความรู้สึกรักและถูกชะตา จึงได้เจ้าใบเงินมา โดยทุกเช้าตนจะคุยกับนายเอให้ช่วยดูแลควายด้วยความรักและความเอ็นดู เวลาขี่เจ้าใบเงินบนถนนก็ให้ระมัดระวัง เกรงว่าจะได้รับอันตรายทั้งคนและควาย รวมถึงทรัพย์สินของคนอื่นเสียหาย ประชาชนที่เห็นก็สามารถเข้ามาถ่ายรูปทักทายพูดคุยหรือให้อาหารเจ้าใบเงินได้ เพื่อช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น และในอนาคตมีความคิดจะทำฟาร์มควาย เพราะมีควายอยู่จำนวนหลายตัว รวมทั้งควายเผือกด้วย และในเดือน ต.ค.นี้ จะนำควายทั้งหมดไปโชว์ภายในงานลากพระประจำปีอีกด้วย


 
สำหรับ นายสมเกียรติ หรือหลวงเอ ยึดอาชีพรับจ้างทั่วไป และมีความสามารถพิเศษ คือ เป็นช่างพ่นสีรถยนต์ที่มีฝีมือ และมีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง ซึ่งหลวงเอจะขี่ควายไปในหลากหลายอำเภอใน จ.ตรัง ซึ่งจะเป็นที่พบเห็นของผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยหากนำควายขี่ออกไปแล้ว หากควายเหนื่อยจะไม่พยายามฝืนให้ควายเดินต่อไป จะหยุดนอนและให้ควายได้พักในจุดนั้นเลย.

...