กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชู สหกรณ์การเกษตรสทิงพระ ต้นแบบโครงการแก้หนี้ แก้จน ก่อนขยายผลสู่สหกรณ์อีก 16 อำเภอของ จ.สงขลา หลังส่งเสริมอาชีพสมาชิกมีรายได้ปลดหนี้สหกรณ์สำเร็จ พร้อมประสานโรงพยาบาลรับซื้อผลผลิตปลอดภัยปรุงอาหารให้ผู้ป่วย ด้าน ผจก.สหกรณ์ เผยจากอานิสงส์โครงการฯ ทำให้สมาชิกมีเงินจ่ายคืนสหกรณ์เพิ่มขึ้น จากเดิมมีดอกเบี้ยค้างจ่าย 10 ล้านบาท มาวันนี้เหลือแค่ 8 แสนบาทเท่านั้น


เมื่อวันที่ 10 ก.ค.65 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนและคณะได้ลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อมอบอาคารรวบรวมและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร มูลค่ากว่า 4.3 ล้านบาท ให้กับสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 108 ม.3 ต.จะทิ้งพระ อ.สทิงพระ จ.สงขลา เป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จของโครงการแก้หนี้แก้จน ด้วยการส่งเสริมสมาชิกปลูกพืชระยะสั้นเพื่อให้มีรายได้อันจะนำมาสู่การจ่ายหนี้ให้กับสหกรณ์ฯ

“การแก้ปัญหาหนี้ค้าง หัวใจสำคัญที่สุดคือ ถ้าสมาชิกมีเงิน ผมคิดว่าไม่มีสมาชิกรายใดที่จะไม่ส่งคืนสหกรณ์หรือคิดจะบิดพลิ้ว แต่เรากลับไปเร่งรัดให้เขาจ่ายเงินต้น จ่ายดอกเบี้ย แต่เราไม่เคยคิดว่าสมาชิกจะเอารายได้มาจากไหน ทำนาปีละครั้ง บางปีก็เจอน้ำท่วม ภัยแล้งผลผลิตเสียหาย เพราะฉะนั้นเราต้องส่งเสริมอาชีพให้เขามี เมื่อเขามีรายได้เพิ่มยังไงเขาก็ยินดีมาจ่ายคืน” นายวิศิษฐ์ กล่าว

...

นายมนุชาธิป วรกาญจนานนท์ สหกรณ์จังหวัดสงขลา กล่าวถึงที่มาปัญหาหนี้ค้างจ่ายสหกรณ์ เหตุสมาชิกไม่ยอมจ่ายคืนตามกำหนดเวลาว่า การแก้ปัญหาเริ่มต้นจากสหกรณ์ที่มีความพร้อมตั้งใจแก้หนี้ค้างเข้าร่วมกิจกรรมกับเราในการส่งเสริมการวางแผนแก้หนี้แก้จนที่มีปัญหาหนี้ค้างจ่าย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลค้นหาความจริงเมื่อค้นพบว่าปัญหาหนี้ค้างเกิดจากอะไรเราก็เข้าไปส่งเสริมสนับสนุนในสิ่งที่เขาขาด บังเอิญว่าสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ จำกัด เห็นด้วย เนื่องจากว่ามีสภาพพื้นที่โหนด นา เล ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาปลูกข้าวปีละครั้งและทำตาลโตนดมีรายได้ไม่แน่นอน สำนักงานสหกรณ์จังหวัดสงขลาร่วมกับสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ จำกัด จึงมีการส่งเสริมให้สมาชิกปลูกพืชระยะสั้นเพื่อให้สมาชิกมีรายได้เพิ่ม โดยบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ มาดูแลในเรื่องต่างๆ ทั้งดินและน้ำ ส่วนสหกรณ์จะดูแลการรวบรวมผลผลิตและการตลาด

“สหกรณ์การเกษตรสทิงพระ ถือว่าเป็นสหกรณ์ต้นแบบของโครงการแก้หนี้แก้จนที่เห็นความสำคัญในการให้สมาชิกมีรายได้ เริ่มต้นจากการเอาทุนสวัสดิการสหกรณ์ไปส่งเสริมจัดหาพันธุ์พืชให้เกษตรกรสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นการกระตุ้นจูงใจ ให้เขาหันมาทำการเกษตรแบบแผนใหม่ เขาทำมาระยะหนึ่งแล้วเห็นผลเป็นที่ประจักษ์ ทำให้สมาชิกมีการขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง กรมส่งเสริมสหกรณ์ก็เลยสนับสนุนอาคารรวบรวมและแปรรูปผลผลิต จำนวน 1 หลัง มูลค่า 4 ล้านบาท และทางสหกรณ์สมทบอีก 10% รวมเป็น 4.4 ล้านบาท เพื่อที่จะขยายโอกาสให้กับสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ” นายมนุชาธิป กล่าวและว่า จากความสำเร็จดังกล่าว ขณะนี้ได้มีการขยายผลไปยังสหกรณ์การเกษตรอื่นๆ อาทิ สหกรณ์การเกษตรควนเนียง จำกัด สหกรณ์การเกษตรบางกล่ำ จำกัด และอีกหลายสหกรณ์ใน จ.สงขลา ที่จะนำแนวทางนี้ไปปรับใช้ ส่วนเรื่องการตลาดนั้นหลังได้ร่วมประชุมกับสาธารณสุขจังหวัด หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนจะนำผลผลิตจากโครงการฯ จำหน่ายให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ใน จ.สงขลา เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล


ด้าน นางมาลิณี พานิชกรณ์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ จำกัด กล่าวถึงโครงการแก้หนี้แก้จนว่า สหกรณ์ได้ส่งเสริมการปลูกพืชระยะสั้นแก่สมาชิกเพื่อจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นและตลอดทั้งปี เนื่องจากการทำนา ซึ่งเป็นอาชีพหลักของสมาชิกทำได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น และทำตาลโตนด ขณะที่ปลูกพืชผักระยะสั้น เช่น พริก มะเขือ แตงกว่า ฯลฯ ปลูกได้ปีละ 2-3 รอบ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันเดียวก็แนะนำให้ปลูกพืชอื่น เช่น มะพร้าว ปาล์ม โดยปลูกแซมร่วมกับพืชอื่นๆ เพราะถ้าปลูกมะพร้าวหรือปาล์มอย่างเดียวรอถึง 4-5 ปีกว่าได้ผลผลิต

ปัจจุบันสหกรณ์การเกษตรสทิงพระ จำกัด มีสมาชิกทั้งหมด 2,184 ราย เมื่อปี 2552 สหกรณ์มีหนี้ค้างจากสมาชิก ทั้งหนี้ต้นและหนี้ดอก โดยมีหนี้ต้นจำนวน 50 ล้านบาทเศษ ส่วนดอกเบี้ยคงค้าง จำนวน 10 กว่าล้านบาท แต่วันนี้ปิดบัญชี ณ วันที่ 30 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา สหกรณ์มีหนี้ทั้งหมด 126 ล้านบาท ขณะที่สมาชิกมีดอกเบี้ยคงค้างแค่ 8 แสนกว่าบาทเท่านั้น มีสมาชิกผิดสัญญาแค่จำนวน 3.5 ล้านบาท นอกนั้นเป็นหนี้ปกติทั้งหมด

...