รมว.ยุติธรรม หวังชาวบ้านริเริ่มพัฒนาต่อยอดกระท่อม อัพเกรดผลิตภัณฑ์สร้างอาชีพเป็นรายได้ ขอบคุณชาวใต้เปลี่ยนใบไม้เป็นเงิน "สมบัติ"อยัน ม.วลัยลักษณ์ พร้อมช่วยสนับสนุนทำวิจัย
เมื่อวันที่ 2 เม.ย.65 ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช มีการจัดงาน "กิจกรรมสัญจรพืชกระท่อม พืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน" โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชการ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. และ นายสมบัติ ธํารงธัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครศรีธรรมราช และประชาชนร่วมงาน โดยช่วงแรกเป็นการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ประเภทโมเดล 200 รายการ อาทิ โมเดลลูฟี่ ไคโด บิ๊กมัม จากการ์ตูนเรื่องวันพีช และโมเดลทรานฟอร์เมอร์ เพื่อนำรายได้เข้ากองทุนป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด
จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้ร่วมเปิดงานพืชกระท่อม โดย นายสมบัติ กล่าวต้อนรับว่า กระท่อมเป็นพืชที่มีประโยชน์ ตนเชื่อมั่นว่า นายสมศักดิ์ จะพัฒนาพืชกระท่อมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ทำให้ความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ขอบคุณ นายสมศักดิ์ที่ทุ่มเทชีวิตการทำงาน เราพร้อมที่จะให้การสนับสนุน และมหาวิทยาลัยของเราก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนพัฒนาวิจัยต่อยอดต่อไป
...
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุการจัดงาน "พืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน ครั้งที่ 2" เพื่อแสดงความขอบคุณพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช ที่ร่วมสนับสนุนกันจนทำให้กฎหมายปลดล็อกพืชกระท่อมผ่านสภาได้สำเร็จ ทุกท่านคือส่วนหนึ่งที่ทำใหพืชกระท่อมประสบความสำเร็จในวันนี้ ทำให้การเคี้ยวแบบวิถีชาวบ้าน การซื้อขาย ไม่ผิดกฎหมาย ก่อนที่กฎหมายปลดล็อกพืชกระท่อมจะประกาศใช้ ป.ป.ส.ได้นำร่องให้ 8 หมู่บ้าน อาทิ บ้านแพกลาง บ้านด่านช้าง บ้านหนองใหญ่ บ้านนาแยกใต้ ที่อยู่ใน อ.ถ้ำพรรณรา ต.คลองเส ซึ่งทั้ง 8 หมู่บ้านนั้นรักษาไว้ 884 ต้น มี 440 ครัวเรือนที่ช่วยรักษา ตนต้องขอบคุณที่รักษาไว้ เพราะไม่เช่นนั้นในเวลานี้เราคงไม่เหลือต้นกระท่อม เพราะต้องตัดทำลายทิ้งไปแล้ว โดยการปลดล็อกพืชกระท่อมในครั้งนี้ มีพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชที่เป็นผู้ใช้กระท่อมแบบวิถีชาวบ้านมากเป็นอันดับสอง สูงถึง 38,390 คน ตนก็หวังว่าทุกท่านจะนำใบไม้ที่พวกเรารักษาและใช้มาไปต่อยอดทำธุรกิจ สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวเป็นรายได้รอง
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เวลานี้การปลูกกระท่อมทุกคนอิจฉาชาวใต้หมดได้ปลูกมาก่อน วันนี้ปลูกได้จริง ทำให้คนทั้งประเทศเรียกร้องให้ตนเข้าไปสนับสนุนให้มีการปลูกไปยังทั่วประเทศให้ได้ และความต้องการของตลาดยังสูง ต่างประเทศมีมูลค่าตลาด 500,000 ล้านบาท ซึ่งพืชกระท่อมของไทยน่าจะเป็นสายพันธ์ที่ดีที่สุด เราจึงต้องมีการพัฒนาต่อยอดต่อไป
"ผมอยากขอบคุณพี่น้องชาวปักษ์ใต้ทุกท่านคือส่วนหนึ่ง วันนี้เราได้เปลี่ยนใบไม้ให้มีมูลค่า ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ จากนี้ผมจะหาแนวทางและหาความร่วมมือ จากภาคส่วนต่างๆเพื่อต่อยอดให้ทุกคนที่ปลูกกระท่อมมีรายได้ ผมขอยืนยันตลอดการทำงานการเมืองมา ผมยึดประโยชน์ของสังคมและประชาชนเป็นที่ตั้งขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน หวังว่าพี่น้องทุกท่านจะมองเห็นทิศทางพืชกระท่อมของไทย จนเกิดความริเริ่มพัฒนาต่อยอด ให้กระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชน" นายสมศักดิ์ กล่าว
จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้เดินชมบูธการแสดงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มาจากพืชกระท่อม เช่น ชาชงสมุนไพร ชากระท่อมพร้อมดื่ม น้ำมันกระท่อม ไอติมกระท่อม หมากฝรั่ง และคอนเสิร์ตจากวง มาลีฮวนน่า