แสนอาลัย เจ้าตูบ สู้กับงูเห่าผัวเมียที่เข้ามาทำรังวางไข่ข้างกำแพงบ้าน ปกป้องเจ้าของจนตัวตาย ขณะที่งูถูกจับได้ สภาพตัวเมียถูกกัดท้องเหวอะ พร้อมกับไข่กองใหญ่ 22 ฟอง ที่กำลังกกฟักในบ่อซีเมนต์
เวลา 17.30 น.วันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิประชาร่วมใจนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือเหตุงูเห่าบุกบ้านเลขที่ 50/93 ซอยร่วมใจพัฒนา (พัฒนาการคูขวาง 15) ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช
ที่บ้านเกิดเหตุพบนายเชาว์วัฒน์ บรรเทิงผล อายุ 35 ปี หรือ ครูมิว เจ้าของโรงเรียนดนตรีบ้านตัวโน้ต ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน รีบพาไปยังจุดที่พบงูเห่า บริเวณริมกำแพงบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่นำบ่วงอุปกรณ์จับงู เข้าไปยังจุดที่พบงูเห่าอย่างระมัดระวัง กระทั่งพบงูเห่ายาวประมาณ 2.5 เมตร ซุกอยู่ในโพรงดินใกล้ปล้องบ่อซีเมนต์ จึงใช้บ่วงอุปกรณ์คล้องจับงูอยู่นานจนจับงูเห่าได้สำเร็จ แต่ระหว่างนำงูเห่าที่จับได้ใส่กล่องพลาสติก เพื่อนำปล่อยป่า พบว่าห่างจุดพบงูเห่าตัวแรกไปเล็กน้อย มีงูเห่าอีก 1 ตัว มีขนาดลำตัวความยาวเท่ากัน 2.5 เมตร โผล่ออกจากโพรงดินใต้ปล่องบ่อซีเมนต์ เจ้าหน้าที่จึงต้องตั้งหลัก ก่อนจะใช้บ่วงอุปกรณ์จับงูเห่าอีกตัวจนสำเร็จ นำใส่กล่องพลาสติก อย่างไรก็ตามพบว่างูเห่าตัวแรกที่ถูกจับ ลำตัวบริเวณท้อง มีรอยคล้ายถูกสุนัขกัดจนไส้ทะลักอีกด้วย
หลังจับงูเห่าทั้ง 2 ตัว ซึ่งคาดว่าเป็นงูเห่าผัวเมีย เจ้าหน้าที่และเจ้าของบ้าน จึงช่วยกันรื้อตรวจสอบบริเวณใต้ปล่องบ่อซีเมนต์ จุดที่พบงูเห่าตัวที่ 2 เพื่อความมั่นใจว่าไม่มีงูเห่าซุกซ่อนอยู่อีกพบว่าใต้ปล่องบ่อซีเมนต์ มีไข่งูเห่า ลักษณะเป็นก้อน ๆ มีความนิ่มๆ คล้ายไข่พร้อมที่จะฟักเป็นตัว นับไข่ทั้งหมดแล้วจำนวน 22 ฟอง จึงนำงูเห่าทั้ง 2 ตัว และไข่งูเห่าทั้งหมดนำไปปล่อยป่าต่อไป
...
สอบถามนายเชาว์วัฒน์ หรือ ครูมิว เผยว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังเลิกงานกลับเข้าบ้านเกิดเหตุ ซึ่งด้านข้างรั้วบ้านเปิดเป็นโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ระหว่างนั้นพบว่า "เจ้าชาดำ" สุนัขสายพันธุ์เฟรนบลูด็อก เพศผู้ สีดำ อายุ 5 ปี ที่ตนเลี้ยงไว้ ส่งเสียงเห่าอยู่ริมกำแพง จึงเข้าไปตรวจสดูพบว่า เจ้าชาดำเห่ากระโชกไล่งูเห่า ด้วยความกลัวว่าเจ้าชาดำ จะถูกงูทำร้าย จึงตัดสินใจคว้าไม้ไล่ตีงูเห่า แต่งูเห่าเลื้อยหนีไปได้ ตอนนั้นคิดว่างูเห่าคงเลื้อยหนีออกนอกบ้านไปแล้ว ประกอบกับเป็นเวลากลางคืน จึงไม่ได้ค้นหาหางูเห่าเพราะเกรงถูกงูเห่าทำร้าย
"จนกระทั่งเช้าวันที่ 28 มี.ค.พบว่า เจ้าชาดำ ยังวนเวียนอยู่เฝ้าจุดที่พบงูเห่า แต่ไม่เอะใจ จึงออกไปทำงานตามปกติ จนช่วงเย็กลับเข้าบ้านพบว่า เจ้าชาดำ นอนตายในลักษณะเหมือนนอนหลับปกติ แต่ร่างกายแข็ง และลำตัวมีรอยถูกงูกัด จึงมั่นใจว่าเจ้าชาดำ ถูกงูเห่าตัวที่พบเมื่อคืนกัดอย่างแน่นอน ตอนนั้นพยายามค้นหาบริเวณริมกำแพง คาดว่าเป็นที่ซ่อนงูเห่า แต่ไม่พบ จึงนำร่างเจ้าชาดำ ฝังในปล้องบ่อริมกำแพง พร้อมโปรยดอกไม้ แสดงความอาลัย"
จนต่อมาช่วงเย็น วันที่ 29 มี.ค.ได้ตัดสินใจรื้อสิ่งของที่วางระเกะระกะ พร้อมกับรื้อปล้องบ่อที่ฝังดินอยู่ริมกำแพง และต้องผงะเพราะพบมีงูเห่าซ่อนอยู่ในโพรงดิน จึงแจ้งขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่มาจับ แต่ต้องผงะขนลุกอีกรอบ เพราะพบว่าในโพรงดินใต้ปล้องบ่อริมกำแพง มีงูเห่าถึง 2 ตัว ไข่งูเห่าพร้อมฟักอีก 22 ฟอง ยอมรับว่ารู้อย่างมากที่ต้องสูญเสีย เจ้าชาดำ สุนัขที่เลี้ยงไว้ เพราะเป็นสุนัขแสนรู้ ขี้เล่น เป็นขวัญใจคนในบ้าน และเพื่อนบ้าน ที่สำคัญเป็นสุนัขที่ทำหน้าที่ปกป้องดูแลคนในบ้านอย่างเต็มที่ พยายามกัดไล่งูเห่าที่บุกเข้าบ้านทำรังฟักไข่ แต่สุดท้ายแม้ว่างูเห่า 1 ตัวจะถูกเจ้าชาดำกัดท้องจนบาดเจ็บไส้ทะลัก แต่เจ้าชาดำก็ถูกงูเห่าแว้งกัดจนมันต้องตายไป
ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ มีคนนำเลขที่บ้านเกิดเหตุ 50/93 รวมทั้งไข่งูจำนวน 22 ฟอง พ่องูแม่งูอีก 2 ตัว ไปผูกเป็นเลขเด็ดนำไปเสี่ยงดวงในงวดนี้ด้วย