หินภูเขาไฟจากอินโดนีเซียลอยไกลถึง หาดทุ่งวัวแล่น แหล่งท่องเที่ยวดังที่ชุมพร ชาวบ้านแห่เก็บขาย ใช้ในการเกษตร ด้าน ปลัด อบต.เผยหินเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายแค่ไม่สวยงาม และจะสลายเองตามธรรมชาติ

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ 8 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้มีชาวบ้านลงไปเก็บ “หินพัมมิช” หรือที่เรียกว่าหินภูเขาไฟ ลักษณะเป็นตะกอนหินก้อนเล็กๆ มีรูพรุนคล้ายฟองอากาศ ก้อนสีดำเทา น้ำหนักเบา ถูกคลื่นซัดขึ้นมากองทับถมอยู่เกลื่อนบริเวณชายหาดยาวกว่า 10 กิโลเมตร ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและยืนยันว่าเป็นตะกอนหินภูเขาไฟที่ปะทุในประเทศอินโดนีเซีย และเป็นชนิดเดียวกันกับที่เป็นข่าวถูกคลื่นซัด เกยชายหาดที่ จ.สงขลา จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และ จ.นครศรีธรรมราช

ชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าว หลังจากที่มีคนโพสต์ลงในสื่อออนไลน์ ต่างเดินทางนำกระสอบและถุงปุ๋ยมาเก็บนำกลับบ้านเพื่อใช้ในการเกษตร และหลายรายบอกว่าจะนำไปขายต่อกิโลกรัมละ 50 บาท ส่วนคนเฒ่าคนแก่อายุ 70-80 หลายคนในพื้นที่ดังกล่าว บอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะประเทศไทยไม่มีภูเขาไฟ และคิดว่าหลายชั่วอายุคนที่ผ่านมาก็ไม่น่าจะมีคนเคยเห็นมาก่อน จึงถือเป็นบุญตาอย่างมากที่ได้เห็นหินภูเขาไฟถูกคลื่นซัดมาเกยที่ชายหาดแห่งนี้ และจะเก็บสะสมไว้เป็นของที่ระลึกด้วย

...

นางนิด ปานคล้าย อายุ 52 ปี เจ้าของร้านอาหารชื่อ “เจ๊ติ๋มซีฟู๊ด” กล่าวว่าตนตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็สังเกตเห็นว่าทำไม่วันนี้ชายหาดทุ่งวัวแล่น กลายเป็นสีดำเหมือนคราบน้ำมันจึงเดินลงไปดูก็พบว่า เป็นก้อนหินขนาดเล็กๆ แต่เบามากเหมือนฟองน้ำ ต่อมาได้มีคนบอกว่าเป็นหินภูเขาไฟที่ระเบิดในประเทศอินโดนีเซีย แต่ส่วนตัวก็ยังแปลกใจว่าทำไมถึงลอยมาไกลได้ขนาดนี้ และตลอดทั้งวันคลื่นยังคงซัดลอยมาเกยชายหาดอยู่อย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี อ.ปะทิว กล่าวว่า ตามที่ปรากฏภาพในสื่อออนไลน์ที่มีชาวบ้านพบวัตถุสีคล้ำคล้ายก้อนกรวด ถูกน้ำทะเลซัดขึ้นมาเกยชายหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ 8 ตำบลสะพลี จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นหินภูเขาไฟปะทุในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วถูกคลื่นซัดมาขึ้นฝั่งในประเทศไทย และหินภูเขาไฟเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ขอให้นักท่องเที่ยวและประชาชนอย่าได้วิตก แต่อาจทำให้ชายหาดเกิดความไม่สวยงาม เมื่อเวลาผ่านไปก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ.