ผช.ผบ.ตร. สั่งเร่งคดีฮุบ "เกาะนุ้ยนอก" หลังพบ จนท.หลายฝ่ายมีเอี่ยว เพื่อนำสำนวนการสอบให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ด้านสืบภาค 8 เช็กเส้นทางการเงิน จ่อเล่นงานยกแก๊ง นายทุน-จนท.รัฐ
กรณีการตรวจสอบการออกโฉนดครอบครอง "เกาะนุ้ยนอก" ในพื้นที่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ซึ่งออกโดยศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จ.กระบี่-พังงา-ตรัง เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 ต่อมามีการขายเปลี่ยนมือจากผู้ขอออกโฉนดรายเดิมคือ นายสมมิตร หาญทะเล ชาวบ้าน อ.เกาะลันตา ไปเป็น นายจักรภพ กลิ่นหอม ซึ่งตรวจสอบแล้วพบเป็น จนท.ระดับสูงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และมีการนำที่ดินดังกล่าวไปประกาศขายผ่านโซเชียลในราคา 100 ล้านบาท นำไปสู่การตรวจสอบที่มาการออกเอกสารสิทธิ พบว่า นำเอา ส.ค.บิน จากอีกพื้นที่มาออกโฉนด จึงมีการเสนอไปยังกรมที่ดินให้เพิกถอน ขณะเดียวกันชาวบ้านเจ๊ะหลี หมู่ 3 ต.เกาะลันตาใหญ่ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เกาะลันตา ให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกเกาะนุ้ยนอก ทาง พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 สั่งตั้งทีมสืบสวนสอบสวนเฉพาะกิจรับคดีดังกล่าวมาดำเนินการ ควบคู่ไปกับการสืบสวนสอบสวนของ บก.ปปป.บช.ก.ที่ดำเนินการสอบสวนเพื่อเอาผิดกับ จนท.รัฐที่เกี่ยวข้อง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ม.ค. 65 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร. เดินทางมาที่ บก.ภ.จว.กระบี่ เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวน และ จนท.จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร เลขาธิการ กอ.รมน.ทภ.4 พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบก.สส.ภ.8 พ.ต.อ.เสริม ขวัญนิมิต รอง ผบก.กค.ภ.8 พ.ต.อ.สมศักดิ์ เนียมเล็ก ผกก.5 บก.ปปป.บช.ก. ประชุมร่วมกันที่ห้องประชุม ศปก.ภ.จ.กระบี่ โดยทีมสืบสวน นำโดย พ.ต.อ.เชิดพงษ์ รายงานความคืบหน้าของคดีให้ที่ประชุมรับทราบว่า ภายหลังมีการเข้าแจ้งความโดยกลุ่มชาวบ้านที่ สภ.เกาะลันตา ทาง สตช.พร้อมด้วย บช.ภ.8 สั่งตั้งคณะทำงานแยกเป็น 2 ชุด คือ ทีมสืบสวนเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐาน และติดตามกลุ่มขบวนการที่ร่วมกันกระทำความผิด และทีมพนักงานสอบสวนที่มี พ.ต.อ.เสริม เป็นหัวหน้าทีม หลังจากลงพื้นที่เก็บรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก ทำให้ตอนนี้สำนวนคดีใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
...
พ.ต.อ.เชิดพงษ์ รายงานต่อว่า จากแนวทางการสืบสวนพบว่ากลุ่มที่รวมขบวนการในการออกโฉนด แยกทำงานกันเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มคนในพื้นที่ทั้งชาวบ้าน และผู้นำชุมชน ทำหน้าที่ติดต่อเสาะหาเอกสารสิทธิ ส.ค.1 ของชาวบ้าน เพื่อนำไปใช้ในการยื่นขอออกโฉนด กลุ่มที่ทำหน้าที่คอยประสานกับ จนท.ของรัฐจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ในการดำเนินการสำรวจออกโฉนด และกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง คอยสนับสนุนทุน และติดต่อหานายทุนมาซื้อที่ดินหลังมีการออกโฉนดเสร็จสิ้นแล้ว เบื้องต้นสอบพยานได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี หลักฐานปรากฎชัดว่าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบ ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา สามารถติดตามตัวพยานปากสำคัญของคดี ซึ่งเป็นเจ้าของเอกสาร ส.ค.1 นำตัวมาสอบปากคำจนทราบว่ามีใครบ้างที่ร่วมขบวนการ ใครทำหน้าที่อะไร แต่ยังมีหลักฐานอีกบางส่วนที่ยังต้องเร่งรวบรวม จากนั้นจะสรุปสำนวนรายงานผู้บังคับบัญชา เพื่อเตรียมดำเนินการในขั้นตอนต่อไป คือการดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า การมาติดตามคดีในวันนี้เนื่องจาก พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ตนเดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีบุกรุกพื้นที่สาธารณะใน จ.กระบี่ กรณีการออกเอกสารสิทธิเกาะนุ้ยนอก ตามที่มีการร้องเรียน จากการรับฟังแนวทางการสืบสวนสอบสวนของ บช.ภ.8 พบว่ามีความคืบหน้าไปมาก ทำให้พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิที่ไม่ถูกต้องอย่างไร หลังจากนี้จะให้เร่งสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่ปรากฏในพยานหลักฐาน ซึ่งพบว่ามี จนท.หลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง หลังสอบสวนเสร็จสิ้นก็จะส่งสำนวนการสอบสวนทั้งหมดให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งนอกจากแปลงที่ดินเกาะนุ้ยนอกแล้ว ตอนนี้ยังทำเอกสารไปยังกรมที่ดิน เพื่อขอตรวจสอบเอกสารในแปลงอื่นๆ อีกหลายแปลง ที่มีการออกเอกสารสิทธิในลักษระเดียวกัน ไม่เฉพาะใน จ.กระบี่ แต่ต้องดำเนินการตรวจสอบในอีกหลายพื้นที่ การเอาผิดนอกจากจะมี จนท.รัฐแล้ว ยังจะขยายผลไปถึงกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดด้วย หลัง ป.ป.ช.ส่งสำนวนกลับมาให้พนักงานสอบสวน ก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องรอกระบวนการเพิกถอนเอกสารสิทธิของกรมที่ดิน การเพิกถอนเป็นกระบวนการหลังจากนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุม ทีมสืบสวน บช.ภ.8 โดยการนำของ พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบก.สส.ภ.8 ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ใน ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เพื่อไปติดตามพยานที่เกี่ยวข้องกับขบวนการมาสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินของขบวนการดังกล่าวทั้งหมด เนื่องจากได้ข้อมูลว่ามีบิ๊กข้าราชการระดับสูงของกรมสอบสวนคดีพิเศษเข้ามามีส่วนพัวพัน โดยเป็นผู้โอนเงินให้กับกลุ่มผู้ดำเนินการในพื้นที่ ขณะเดียวกันช่วงเที่ยงของวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ทีมสืบสวนติดตามตัวนายสมมิตร หาญทะเล ชาวบ้านบนเกาะลันตา ซึ่งเป็นผู้ปรากฏชื่อเป็นเจ้าของ ส.ค.1 และเป็นผู้ยื่นขอออกโฉนด คุมตัวเข้าเซฟเฮาส์ไปเค้นสอบตลอดทั้งคืนจนได้ข้อมูลสำคัญที่เชื่อมโยงตั้งแต่กลุ่มนายทุน ไปจนถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด ทางทีมสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องให้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำต่อไป โดยกลุ่มร่วมขบวนการมีมากกว่า 10 คนขึ้นไป ตั้งแต่ จนท.รัฐ ไปจนถึงชาวบ้านในพื้นที่.