หนุ่มใหญ่ลูกเรือประมงที่นครศรีธรรมราช อยู่ๆ อยากกลับฝั่ง คว้าถังแก๊สปิกนิกขู่ไต้ก๋งให้หันหัวเรือกลับภายใน 30 นาที ไม่อย่างนั้นจะจุดแก๊สระเบิดเรือให้วอด สุดท้ายจุดจริงแก๊สระเบิด 2 ถังพร้อมกัน ตัวเองถูกไฟคลอกดับ กลายเป็นศพกลับฝั่ง
วันที่ 5 ม.ค. 65 ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.สมชาย งอดสุวรรณ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตบนเรือประมงที่ออกทำประมงในน่านน้ำอ่าวไทย และเรือประมงที่มีผู้เสียชีวิตบนเรือ กำลังแล่นเข้าฝั่งเพื่อเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลานครศรีธรรมราช เลขหมู่ 4 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.สิชา พูลวงษ์ ผกก. แพทย์เวร รพ.ปากพนัง และอาสาสมัครมูลนิธิประชาร่วมใจ รุดไปยังท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลาฯ
พบเรือประมง ส.สูเจริญ 12 แล่นเข้ามาเทียบท่า ตรวจสอบพบร่างของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายกะหมาด ปัญญาผล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/5 หมู่ 8 ต.นาเคียน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ถูกไฟไหม้คลอกร่างดำเป็นตอตะโกอยู่บนชั้นดาดฟ้าของเรือที่ต่อเติมและดัดแปลงเป็นที่เก็บถังแช่ปลาเพิ่มเติม
...
สอบสวนทราบว่าเรือประมงลำดังกล่าวมีไต้ก๋งเรือพร้อมลูกเรือรวม 6 คน นำเรือออกทะเลเพื่อจับปลาทำประมงในน่านน้ำอ่าวไทย เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ขณะทำประมง ปรากฏว่าลูกเรือประมงคนหนึ่งคือ นายกะหมาด เกิดอาการเครียด ได้นำถังแก๊สปิกนิกขนาด 5 กก. ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ และขู่บังคับให้ไต้ก๋งเรือนำเรือประมงกลับเข้าฝั่งภายในเวลาครึ่งชั่วโมง หากไม่ทำตาม จะจุดระเบิดถังแก๊สทำลายเรือ
แต่ไต้ก๋งเรือไม่สามารถทำตามได้ เนื่องจากเรือแล่นหาปลาอยู่ในทะเลในระยะที่ไกลจากฝั่งมาก แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น นายกะหมาด ได้จุดไฟที่ถังแก๊สปิกนิกและถังแก๊สหุงต้มทำครัวของเรือ ขนาด 15 กก. ที่วางอยู่ใกล้กัน จนเป็นเหตุให้ถังแก๊สระเบิดพุ่งใส่ถังพลาสติกที่ใช้เก็บแช่ปลา และผ้าเต็นท์ขนาดใหญ่ที่ใช้คลุมสิ่งของบนชั้นดาดฟ้าของเรือ โดยเฉพาะผ้าเต็นท์ที่กลายเป็นเชื้อไฟอย่างดี ทำให้ไฟโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้สิ่งของบนชั้นดาดฟ้า และคลอกร่างของนายกะหมาดเสียชีวิต ทางไต้ก๋งจึงวิทยุแจ้งเหตุถึงศูนย์สื่อสารสมาคมประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากพนัง ก่อนนำเรือกลับเข้าฝั่ง
ในชั้นนี้พนักงานสอบสวนคาดว่า นายกะหมาด ลูกเรือรายนี้อาจเกิดความเครียดจากปัญหาส่วนตัว หรืออาจเกิดการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติด จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาร่วมตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ก่อนนำศพส่งตรวจชันสูตรและผ่าพิสูจน์ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
(ภาพและคลิปจากมูลนิธิประชาร่วมใจและสภ.ปากพนัง)