ตำรวจภูเก็ตตามรวบหนุ่มวัย 25 ปีคาบ้านพัก หลังก่อเหตุลักไม้ด่างราคาแพงจากบ้านพักหลังหนึ่ง โดยเจ้าของแจ้งความหายไป 8 ต้น และวงจรปิดจับภาพได้ สารภาพต้องการนำไปขาย เพราะมูลค่ารวมสูงราว 1.5 ล้าน

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 17 ต.ค. 64 พ.ต.ต.ทัพไทย ลีลานนท์ สว.สส. พร้อมด้วย ร.ต.อ.อนิรุทธิ์ ทองผึ้ง รอง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต นำกำลังเข้าจับกุม นายเชาวลิต บุตตะ อายุ 25 ปี บ้านอยู่ชุมชนหาดแสนสุข ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมของกลาง 4 รายการ ดังนี้ 1.รถ จยย.สามล้อพ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง ทะเบียน กพข 505 ภูเก็ต 2.ต้นกล้วยสายพันธุ์อินโด 1 ต้น 3.ต้นบอนกระดาษด่างขาว 1 ต้น 4.ต้นฟิโลหูช้างด่างขาว 1 ต้น โดยของกลางตรวจยึดได้ที่บ้านเลขที่ 59/28 ชุมชนหาดแสนสุข ม.7 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือเพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสาธิต วานิชกุล อายุ 44 ปี ชาวบ้านย่าน ถ.ภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เข้าพบ ร.ต.ท.วิโรจน์ พรประพฤติ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต หลังตรวจสอบพบว่าต้นไม้ที่ปลูกไว้บริเวณหลังบ้านของตนได้หายไป 8 ต้น โดยบริเวณดังกล่าวมีร่องรอยการรื้อถอดต้นไม้ไป ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้หลังบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าเมื่อวันที่ 14 ต.ค. เวลาประมาณ 02.00 น. ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนเดินวนเวียนอยู่บริเวณกำแพงหลังบ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นคนร้ายทั้ง 2 คนได้ช่วยกันยกตะกร้าซึ่งภายในคาดว่าเป็นต้นไม้ของผู้เสียหาย แล้วนำไปยกใส่รถจักรยานยนต์ 3 ล้อพ่วงข้าง ซึ่งจอดอยู่ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร จากนั้นคนร้ายได้ขับขี่รถหลบหนีเข้าไปบริเวณภายในซอยชุมชนหาดแสนสุข ม.7 ต.รัษฎา โดยชุมชนหาดแสนสุขอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร

...

จนกระทั่งช่วงเย็นวันที่ 16 ต.ค. ชุดจับกุมได้สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันก่อเหตุจอดอยู่บริเวณริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 59/28 ชุมชนหาดแสนสุข ม.7 ต.รัษฎา จึงเชื่อว่าคนร้ายชายพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงได้เข้าแสดงตัวให้เจ้าของบ้านและบุคคลที่พักอาศัยอยู่ภายในบ้านทราบ จากนั้นนายเาชวลิตผู้ต้องหาเดินออกมาจากบ้านและยอมรับว่าตนเองเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุลักต้นไม้ดังกล่าว โดยตนเองได้ชักชวน นายเจษฎาวุฒิ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นหลานชายร่วมก่อเหตุด้วย โดยต้องการต้นไม้ทั้งหมดไปขาย เนื่องจากมีราคาแพง แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน ทั้งนี้ต้นไม้ทั้งหมดมีราคาซื้อขายกันในตลาดไม้ด่าง กล้วยด่างกว่า 1.5 ล้านบาท.