สามี-ภรรยา ที่กระบี่ตกงานช่วงโควิด ลุกสู้ขี่ซาเล้งเก็บขยะริมทะเลขายได้วันละ 200-300 บาท ฝากถึงคนที่ลำบาก ไม่มีงานไม่มีเงิน อย่าท้อไปทำผิดกฎหมาย ลองหารายได้จากสิ่งใกล้ตัวเชื่อทุกอย่างจะดีขึ้น
เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องราวของ 2 สามี-ภรรยา ที่เจอวิกฤติโควิด ทำให้ตกงานไม่มีรายได้ แต่ไม่นั่งรอความตาย ตระเวนเก็บขยะขายหาเงินเลี้ยงชีพอย่างน่าชื่นชม เปิดเผยขึ้น โดยผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่หน้าชายหาดเกาะกลาง บริเวณบ้านเกาะกวาง หมู่ 3 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ มีหญิงชายคู่หนึ่ง ขี่รถ จยย.พ่วงข้าง มาจอดริมถนน กำลังเดินถือถุงดำเดินเก็บขยะอยู่ตามแนวชายหาด โดยจะเลือกเก็บพวกขยะพลาสติก ที่ถูกคลื่นทะเลซัดเข้ามาเกยอยู่ตามแนวชายหาด จึงลองเข้าไปสอบถาม ทราบว่า ทั้ง 2 คน เป็นสามี-ภรรยา ออกมาตระเวนเก็บขยะตามริมหาด เพื่อนำไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่าในตัวเมือง
...
สอบถามจากนางขานทอง พิมพาพันธ์ อายุ 54 ปี ฝ่ายภรรยา ซึ่งเป็นชาวบ้านหมู่ 1 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ทราบว่า ขยะที่ออกมาช่วยกันเก็บส่วนใหญ่จะเป็นพวกขวดพลาสติก ขวดแก้ว ซึ่งเธอและสามีออกมาเก็บกันตามชายหาดหลายแห่งในตัวเมืองกระบี่ เพื่อหารายได้ประทังชีวิตในช่วงวิกฤติโควิด-19
นางขานทอง กล่าวว่า เดิมทีเธอและสามี ทำงานเป็นคนงานก่อสร้างให้กับผู้รับเหมาในพื้นที่ แต่มาช่วงที่โควิดระบาด ทำให้ต้องหยุดงานเพราะไม่มีงานก่อสร้างให้ทำ ทำให้เธอและสามีไม่มีรายได้ทางอื่น ประกอบกับสามีก็มีอาการป่วย จึงทำงานหนักไม่ได้ เลยตัดสินใจนำรถ จยย.แบบพ่วงข้าง หรือซาเล้ง ขี่ไปตามชายหาดต่าง ๆ เพื่อเก็บขยะพลาสติก ขวดแก้ว ที่ถูกคลื่นซัดมาติดอยู่ตามชายหาด นำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งแต่ละวันก็มีรายได้มาใช้ประทังชีวิตวันละ 200-300 บาท โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุม จะมีขยะถูกคลื่นซัดมาอยู่ตามแนวชายหาดจำนวนมาก ก็สามารถเก็บได้มากขึ้น เงินที่ขายของได้ก็พอได้ซื้อของกินในครอบครัว
"อยากฝากถึงคนทั่วไป ช่วงวิกฤติแบบนี้ ใครที่เจอปัญหาไม่มีงาน ขาดรายได้ อย่าได้ท้อแท้ หรือไปทำสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งลักเล็กขโมยน้อย หรือไปค้ายาเสพติด ให้ลองหารายได้ที่สามารถหาได้ใกล้ตัว ประคองชีวิตให้ได้ก่อน หลังผ่านพ้นวิกฤติเชื่อว่าทุกอย่างต้องดีขึ้น" ชาวบ้านสู้ใจฝ่าวิกฤติโควิด กล่าว.