วัดบางมรา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เจอบิลค่าน้ำเดือนล่าสุด พุ่งกระฉูดกว่า 3 หมื่นบาท หลังการประปาเปลี่ยนมาตรใหม่ผ่านไป 1 เดือน เจ้าอาวาสโอดวัดไม่มีเงิน ด้านนายอำเภอฯ หารือการประปา ให้ทางวัดผ่อนจ่าย 12 เดือน
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพระใบฎีกา สราวุธ เลขานุกิจเจ้าอาวาสวัดบางมรา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ว่าได้รับใบแจ้งค่าน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาตะกั่วป่า แจ้งยอดเงินที่ต้องชำระรวมทั้งสิ้น 31,859.46 บาท จนทำให้ทางวัดรู้สึกตกใจและผิดสังเกต
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่วัดดังกล่าว พร้อมว่าที่ร้อยเอกพงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า และเจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาคสาขาตะกั่วป่า เพื่อตรวจสอบและหาทางออกค่าน้ำปะปา โดยพบว่าทางวัดไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าน้ำ เพราะช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พระไม่มีกิจนิมนต์ เนื่องจากปัญหาโควิดฯ ส่วนเงินที่ชาวบ้านบริจาคเข้าบัญชีนั้น มีจำนวนเพียง 2,000 บาท ซึ่งไม่พอจ่ายค่าน้ำ เพราะฉะนั้นทางวัดจะถูกตัดน้ำอย่างแน่นอน
ด้าน พระใบฎีกา สราวุธ เลขานุกิจ เจ้าอาวาสวัดบางมรา เล่าว่า ขณะนี้เงินในบัญชีวัดมีอยู่เพียง 2,000 พันกว่าบาท ตั้งแต่โควิดฯ รอบแรกทางวัดก็ได้ทำการปิดศาลา อยู่ไปอยู่มามาตรวัดน้ำประปาก็เสีย ทางการประปาก็มาเปลี่ยนมาตรใหม่ให้ ผลปรากฏว่าผ่านไป 1 เดือน ค่าน้ำก็ขึ้นมา 3 หมื่นกว่าบาท เป็นความเดือดร้อนของทางวัดอย่างมาก ก็เลยทำการขุดและฉีดน้ำเพื่อหาสาเหตุว่ารั่วตรงจุดไหน คาดว่าน่าจะรั่วอยู่ใต้ดินแต่ทางวัดก็ไม่สามารถดำเนินการได้ จากที่ได้ใช้น้ำประปามา 6 ปี มีการใช้จ่ายค่าน้ำประปามากสุดเป็นเงิน 2,000 บาท หลังจากนั้นมาก็มีการเปลี่ยนมาตรใหม่ ผ่านไป 1 เดือน ค่าน้ำก็ขึ้น 31,859.46 บาท ซึ่งเป็นภาระหนักของทางวัดอย่างมาก จนสร้างความเดือดร้อนให้พระในวัด เนื่องจากที่วัดแห่งนี้ก็ไม่ได้มีรายได้มากมาย เพราะเป็นวัดที่กำลังพัฒนา
...
"ค่าน้ำสูงจนทำให้ทางวัดรู้สึกขัดสนอย่างมาก จะหาเงินไปจ่ายค่าน้ำประปา ก็ต้องอาศัยบุญทานจากประชาชนที่มีกำลังช่วยเหลือ ขณะนี้ทางพระก็ช่วยกันหาสาเหตุ โดยใช้น้ำอัดเข้าไปในท่อ แต่ก็ยังไม่พบรอยรั่ว จึงขอความอนุเคราะห์จากทางเจ้าหน้าที่การประปาฯ ช่วยลงมาดำเนินการแก้ปัญหาให้กับวัดด้วย" เจ้าอาวาสวัดฯ กล่าว
ด้าน นายอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า หลังจากทราบปัญหาค่าน้ำวัดสูงผิดปกติ ตนได้ปรึกษากับทางผู้จัดการประปาส่วนภูมิภาคสาขาตะกั่วป่า พร้อมลงพื้นที่มาตรวจสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้นน่าจะมีน้ำรั่วบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ซึ่งในมาตรการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จะต้องหาจุดที่รั่วให้ได้ ซึ่งถ้ามีน้ำรั่วใต้ดินที่ลึกลงไป ก็จำเป็นต้องตัดระบบที่ต่อไว้ออกไป และต้องเดินท่อประปาใหม่ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ถาวรสำหรับเรื่องค่าน้ำประปา ส่วนเรื่องค่าน้ำที่สูงถึง กว่า 30,000 บาทนั้น ได้รับความกรุณาจากทางการประปาเขต ได้อนุมัติให้ทางวัดมีการผ่อนในระยะเวลา 12 เดือน เดือนละ 2,000 กว่าบาท และต่อจากนี้ก็ต้องหาวิธีการในการช่วยเหลือทางวัด และเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน เพราะวัดดังกล่าวถือว่าเป็นวัดที่มีอายุกว่า 300 ปี ซึ่งเป็นโบราณสถานที่สำคัญ และมีความสำคัญกับพี่น้องชาวพังงา ซึ่งภายในวัดมีพระจำนวน 3 รูป และหลังจากนี้ต้องเข้ามาช่วยดูแลกันต่อไป.