ขบวนการขนแรงงานผิดกฎหมายข้ามชาติ เริ่มใช้ช่องทางธรรมชาติ อ.กระบุรี จ.ระนอง เป็นฐานในการนำพาแรงงานเข้าประเทศ ทหารกองกำลังเทพสตรี จับได้ 33 คน พบทำเป็นขบวนการรับส่งต่อกันเป็นทอด
เมื่อกลางดึกวันที่ 1 มิ.ย. พันเอกสุวัฒน์ ทองใบ ผบ.ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี ได้รับรายงานจากสายข่าวทหารมีรถยนต์กระบะตอนครึ่ง สีดำยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน บฉ 1606 ระนอง บรรทุกแรงงานเถื่อน หลบหนีเข้าเมืองมาเต็มคันรถ และมีผ้าสแลนปิดคลุมไว้ที่ท้ายกระบะ กำลังนำพาแรงงานทั้งหมดเข้าพื้นที่ชั้นใน โดยข้ามฝั่งจากประเทศเมียนมาด้วยเรือหางยาง จำนวน 2 ลำ มาขึ้นบริเวณปั๊มน้ำมันร้าง บ้านดอนสวะ ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยมีรถยนต์ ซึ่งมีนายสุทัศน์ ม่วงหีต ชาว ต.บางแก้ว อ.กระบุรี มารับตัว มุ่งหน้าไปทาง อ.ละอุ่น จ.ระนอง เพื่อเข้าพื้นที่ชั้นใน จ.ชุมพร จึงรีบสั่งการให้ จุดตรวจทหาร ตามเส้นทางรอยต่อระหว่างจังหวัดระนอง กับจังหวัดชุมพร คือ จุดตรวจศิลาสลัก จุดตรวจทุ่งตาพล และจุดตรวจในวง ทำการสกัดรถยนต์ขนแรงงานต่างด้าว ทันที
ต่อมา เวลา 04.40 น. รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับมุ่งหน้ามาเส้นทาง ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น เจ้าหน้าที่ทหารได้ขับรถยนต์ทำการไล่ติดตามทันที ซึ่งเส้นทางลัดเลาะไปตามหุบเขาตามเส้นทางในภูมิประเทศ ผ่าน ม.5 ต.ละอุ่นเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง เพื่อข้ามแนวเทือกเขามุ่งหน้าไปยัง จ.ชุมพร แต่ทหารสามารถสกัดและควบคุมรถยนต์กระบะต้องสงสัยได้ บนยอดเขา ซึ่งเป็นทางลูกรังก่อนถึงโรงเรียนบ้านในหุบ ม.4 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร
ทหารหน่วย ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี ได้ทำการตรวจสอบท้ายรถยนต์กระบะติดรั้วเหล็กด้านข้าง และเปิดผ้าคลุมออก พบว่ามีแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 24 คน นั่งเบียดอัดมากันเป็นจำนวนมาก ก่อนให้แรงงานชายที่สามารถพูดคุยภาษาไทยได้เรียกเพื่อนให้ลงจากรถยนต์ไปนั่งรวมกัน และเมื่อเปิดภายในห้องโดยสารด้านหน้ายังพบแรงงานหญิง นั่งอัดซ้อนกันมาแน่น อีก 9 คน รวมแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด 33 ราย
...
ส่วนคนขับนายสุทัศน์ ม่วงหีต ได้ใช้ความมืดวิ่งหลบหนีเข้าป่าไปได้ แต่ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป ได้ทำร้ายแรงงานชายคนหนึ่งห้ามไม่ให้หนี ถูกต่อยเข้าครึ่งปากครึ่งจมูก และทุบตีระหว่างนั่งรถ จนได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลเลือดไหลเต็มใบหน้า และเสื้อขาวแขนยาวที่สวมใส่ สาเหตุเพราะขึ้นรถช้าในระหว่างที่จะรีบเดินทางเพื่อหลบหนี
จากการสอบสวนเบื้องต้น แรงงานทั้งหมด 33 ราย ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่เคยทำงานอยู่ในประเทศไทยมาก่อน มาจากเมืองย่างกุ้ง 18 คน เมืองเม๊าะละมาย 13 คน และเมืองทวาย 2 คน เพื่อจะเดินทางลงไปทำงานที่ จังหวัดต่างๆ ทางภาคใต้ เช่น นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ปัตตานี สงขลา โดยแรงงานชาวเมียนมา ทั้งหมดได้ถูกกระบวนการลักลอบส่งแรงงานข้ามชาติ ทั้งชาวเมียนมาและชาวไทย ส่งมาพักเพื่อรวบรวมคนที่บ้าน เอชันตะ ฝั่งตรงกันข้ามกับ อ.กระบุรี จ.ระนอง ประมาณ 1 เดือน และเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เดินทางข้ามมาฝั่งประเทศไทย ด้วยเรือหางยาว จำนวน 2 ลำ แอบขึ้นที่ท่าเรือตามธรรมชาติ บ้านดอนสวะ ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง โดยมีนาย สุทัศน์ ม่วงหีต ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว มารอรับอยู่ เพื่อส่งเข้าไปยังพื้นที่จังหวัดชั้นใน แต่ถูกทหาร กกล.เทพสตรี สกัดกั้นไว้ได้ก่อน
ทั้งนี้ ขบวนการนี้ กระทำโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยใช้พื้นที่รอยต่อชายแดน ตามช่องทางธรรมชาติ ของ อ.กระบุรี จ.ระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ขบวนการลักลอบขนยางพาราผิดกฎหมายด้วย จนเมื่อเดือนที่ผ่านมาเริ่มปรากฏมีการนำพาแรงงานข้ามชาติเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งทหารกองกำลังเทพสตรี ได้จับกุมต่อเนื่องกันเป็นรายวัน
จากนั้น ทหารชุดจับกุม ได้ควบคุมตัวแรงงานทั้งหมด เข้าสู่การดำเนินการตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตรวจวัดอุณหภูมิ และให้สวมหน้ากากอนามัย ควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลที่กองร้อย ร.2521 หน่วย ฉก.ร.25 กองกำลังเทพสตรี ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป