ล้มแล้วต้องลุกเร็ว 2 พี่น้องสาวกระบี่สู้ชีวิต ร้านอาหารเจ๊งเพราะโควิด-19 ควักเงินก้อนสุดท้ายทำ จยย.พ่วงตระเวนขายเบอร์เกอร์ราคาชิ้นละ 25 บาท แถมยังใจบุญให้คนชราและหญิงตั้งครรภ์กินฟรี

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ ว่า จากผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องปิดกิจการเนื่องจากขายของไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหาร แต่มีหลายคนที่ไม่ย่อท้อ พยายามหาทางต่อสู้ชีวิต โดยเฉพาะ 2 สาวพี่น้องชาวกระบี่ น.ส.อ้อมจิต เรืองฤทธิ์ อายุ 37 ปี และ น.ส.อ้อมใจ เรืองฤทธิ์ อายุ 35 ปี อดีตเจ้าของร้านขายอาหารภายในสวนสาธารณะธารา ในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ เจอวิกฤติโควิด-19 ทำให้ต้องปิดกิจการร้านอาหาร เพราะไม่มีผู้คนมาใช้บริการ

แม้โควิด-19 จะพ่นพิษจนกิจการที่ตั้งใจทำไว้ไปต่อไม่ได้ แต่เธอทั้ง 2 คน ไม่ยอมแพ้ชีวิต ผันตัวเองมาขายแฮมเบอร์เกอร์ โดยนำเอารถซาเล้ง หรือ จยย.พ่วงข้าง ที่มีอยู่ ดัดแปลงปรับเป็นร้านขายเบอร์เกอร์เคลื่อนที่ โดยใช้ชื่อว่า "สถานีเบอร์เกอร์" ขี่ตระเวนขายไปตามตัวเมืองกระบี่ โดยขายในราคาไม่แพงเพียงชิ้นละ 25 บาทเท่านั้น

...

นอกจากจะสู้ชีวิต และทำอาหารขายในราคาไม่แพงแล้ว สิ่งที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างของร้านเธอทั้ง 2 คน คือการเป็นคนใจบุญ เขียนป้ายติดไว้ข้างรถขายเบอร์เกอร์ว่า "คนท้อง คนชรา กินฟรี" ยิ่งส่งผลให้ผู้คนให้ความสนใจ มาซื้อ มาอุดหนุนกันไม่ขาดสาย ซึ่งในแต่ละวัน นอกจากจะตระเวนขี่รถขายไปทั่วแล้ว จะมีบางช่วงที่ทั้ง 2 พี่น้อง มาจอดขายอยู่เป็นจุดขายประจำบริเวณริมถนนตรงข้ามเขื่อนหน้าเมืองกระบี่ โดยจะเริ่มขายตั้งแต่เวลา 14.30-22.00 น. ทุกวันด้วย

น.ส.อ้อมใจ ผู้เป็นน้องสาว กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนพร้อมพี่สาว เปิดร้านขายอาหารอยู่บริเวณสวนสาธารณะธารา ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่การระบาดรอบแรก จนต้องปิดกิจการ เนื่องจากไม่มีลูกค้า ทำให้แบกภาระค่าเช่าที่ไม่ไหว หลังจากนั้นก็เปิดร้านเล็กขายโรตีกับเบอร์เกอร์อยู่ที่บ้านในพื้นที่บ้านริมชล หมู่ 7 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ แต่ขายอยู่กับที่ก็ไม่ค่อยมีลูกค้า จึงตัดสินใจนำเงินก้อนสุดท้ายลงทุนร่วมกับพี่สาว ดัดแปลงรถสามล้อพ่วงข้างเป็นร้านขายแฮมเบอร์เกอร์เคลื่อนที่ ใช้ชื่อ "สถานีเบอร์เกอร์" ต่อมาลูกค้าก็เริ่มรู้จักมากขึ้น ส่วนที่ติดป้ายให้คนท้องและคนชรา กินฟรี นั้น เพราะเห็นว่าตอนนี้ทุกคนก็ลำบากเหมือนกันหมด และที่สำคัญตนและพี่สาว คิดว่าเป็นการได้ทำบุญไปด้วยในตัว จึงทำให้คนท้องและคนชรา ได้กินฟรี.