ตำรวจพัทลุงเค้นสอบ 4 ผู้ ต้องหาแก๊งฆ่าโหดหนุ่มญาติสนิททิ้งคลองอำพราง หลังจำนน หลักฐานคราบเลือดและลายนิ้วมือแฝงในรถยอมสารภาพสิ้น แฉประวัติผู้ตายเคยต้องโทษยาเสพติด และลักทรัพย์ถึง 5 คดี แถมเกเรชอบหาเรื่องญาติ ก่อนเกิดเหตุปาแก้วใส่น้องสาวย่าตัวเอง กลุ่มผู้ต้องหาทั้งลุง อาและลูกพี่ลูกน้องทนไม่ไหวรุมชกจับมัดมือมัดเท้าอุ้มขึ้นรถเก๋งพาไปรัดคอโยนลงน้ำระบายแค้น
กรณีแก๊งฆาตกรทมิฬร่วมกันสังหารโหดนายวรวิทย์ ช่วยมาก อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 9 ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง นำศพไปโยนทิ้งน้ำคลองบ้านกลาง เชื่อมทะเลน้อยกับทะเลสาบสงขลา ตอนใน บริเวณสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พื้นที่รอยต่อ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง กับ ต.บ้านขาว อ.ระโนด จ.สงขลา กระทั่งชาวบ้านพบศพเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา สภาพถูกมัดเท้าและมือไพล่หลังด้วยผ้าขาวม้าและเชือกไนลอน ลำคอถูกรัดด้วยผ้าขาวม้า เบื้องต้นตำรวจคาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ
ตำรวจได้ตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแล้ว เป็นญาติสนิทของผู้ตาย โดยเช้ามืดวันที่ 25 พ.ค. พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9 และ พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จ.พัทลุง ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องสงสัย 4 คน เป็นเครือญาติผู้ตาย ประกอบด้วย นายสมคิด ช่วยมาก อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ 4 ต.แพรกหา อ.ควนขนุน มีศักดิ์เป็นลุงผู้ตาย นายวีระเดช หรือกุ้ง ช่วยมาก อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 9 ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน อาของผู้ตาย นายสมเกียรติ วระพันธ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 9 ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน และนายวราภรณ์ รอดเนียม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 462 หมู่ 9 ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย
...
สืบเนื่องจากช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ทีมสืบสวน บก.สส.ภ.9 ร่วมกับชุดคลี่คลายคดี ภ.จ.พัทลุง ตำรวจกองปราบปราม และ สภ.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน พบหลักฐานเชื่อมโยงผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน มีพยานยืนยันรถเก๋งคนร้าย ยี่ห้อนิสสัน สีดำ ทะเบียน กท 1658 พัทลุง มีนายสมคิดเป็นผู้ครอบครอง ตำรวจนำรถมาตรวจลายนิ้วมือแฝงและคราบเลือดที่ติดอยู่บนเบาะ พร้อมนำตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คนมาสอบสวนที่ ภ.จ.พัทลุง เบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ แต่หลังถูกสอบเค้นอย่างหนัก ในที่สุดผู้ต้องหายอมรับสารภาพ ชุดสืบสวนพาไปตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม พบเสื้อผ้าที่กลุ่มผู้ต้องหาสวมใส่ในวันเกิดเหตุอยู่ในบ้านผู้ตาย ขณะที่นายวีระเดช สวมกำไลอีเอ็มที่ข้อเท้าระหว่างพักโทษคดียาเสพติด
ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9 แถลงรายละเอียดการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ว่าผู้ตายและผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเครือญาติกัน ผู้ตายมีประวัติอาชญากรรมถึง 5 คดี แยกเป็นคดีลักทรัพย์ 1 คดี และยาเสพติด 4 คดี และยังมีนิสัยเกเรชอบมีเรื่องกับญาติๆเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายใช้แก้วปาใส่นางพา พรหมแก้ว อายุ 77 ปี น้องสาวย่าผู้ตายที่มีบ้านติดกัน ทำให้นายวราภรณ์ ลูกชายนางพา นายสมเกียรติ ลูกเขยนางพา และนายวีระเดช อาผู้ตาย ไม่พอใจเข้าไปชกต่อยจับมัดมือมัดเท้าและโทรศัพท์ให้นายสมคิด ลุงผู้ตายขับรถมาช่วยนำร่างผู้ตายไปโยนทิ้งคลอง ขณะนี้ต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติเวชวิทยาว่าผู้ตายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุหรือตายในจุดทิ้งศพ
มีรายงานว่าจากการสอบสวนนายสมคิดและนายวีระเดชรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาตามความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันซ่อนเร้นทำลายศพ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ส่วนนายสมเกียรติ กับนายวราภรณ์ ยอมรับสารภาพเพียงข้อกล่าวหาในความผิดร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันซ่อนเร้นทำลายศพ
จากนั้นช่วงบ่าย พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จ.พัทลุง ร่วมกับ พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย พ.ต.อ.ภาคิน ณ ระนอง พ.ต.อ.สุริยา ปัญญามัง รอง ผบก.ภ.จ.พัทลุง พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จ.พัทลุง และ พ.ต.อ.กอบโชค เล็กตระกูล ผกก.สภ.ทะเลน้อย คุมตัวนายสมคิด ผู้ต้องหาคนที่ 1 และนายวีระเดช ผู้ต้องหาคนที่ 2 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบนสะพานจุดทิ้งศพคลองบ้านกลาง นายวีระเดชเป็นคนใช้ผ้าขาวม้ารัดคอผู้ตาย นายสมคิดช่วยนำร่างผู้ตายโยนลงไปในคลอง ระหว่างนำตัวผู้ต้องหาลงไปชี้จุดมีชาวบ้านมามุงดูจำนวนมาก หลังทำแผนเสร็จตำรวจรีบนำตัวขึ้นรถกลับทันที