คุม "บังซัน" ผู้ต้องหาร่วมฆ่าโหดฝังรถ ฝังศพเสี่ยสุชาติ ฝากขังที่ศาลกระบี่ เปิดปากขอโทษ ไม่ได้โดนตำรวจซ้อม อ้างเกิดความเครียด กดดัน ด้านตำรวจมั่นหลักฐานมัดตัว ขณะที่สองพี่น้อง "บังฟิต-กิบหลี" ล่าสุดมีความเคลื่อนไหว ติดต่อคนกลางพามอบตัว เชื่อยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ 

เวลา 11.45 น. วันที่ 17 พ.ค. พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ พร้อมทีมพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ คุมตัว นายสุวิทย์ หรือบังซัน หรือบังเลาะ เริงสมุทร อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่านายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 51 ปี ไปส่งฝากขังศาล จ.กระบี่ หลังสอบสวนผู้ต้องหาเสร็จสิ้นแล้ว

โดยตลอดคืนที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนสอบปากคำนายสุวิทย์ พร้อมด้วยภรรยา และญาติสนิทอย่างเคร่งเครียด รวมถึงนำตัวนายสุวิทย์ส่งไปตรวจหาร่องรอยถูกทำร้าย หลังเจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับสื่อ อ้างว่าถูกตำรวจซ้อมให้รับสารภาพ ผลการตรวจร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด

นายสุวิทย์ กล่าวยอมรับระหว่างถูกตำรวจคุมตัวขึ้นรถไปฝากขังว่า จริงๆ แล้วตนไม่ได้ถูกทำร้ายตามที่พูดไป แต่เหตุที่พูดไปแบบนั้นเพราะเกิดความกดดันและความเครียด จึงอยากขอโทษด้วยที่ว่าตำรวจเตะต่อย จริงๆ แล้วไม่มีเหตุการณ์แบบนั้น ในส่วนของการก่อเหตุได้ให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว

...

ด้าน พ.ต.อ.ตานิตย์ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องทำร้ายร่างกายที่ผู้ต้องหาอ้างนั้นได้ให้พนักงานสอบสวนนำตัวออกมาสอบสวนในประเด็นนี้ และในการสอบสวนก็แจ้งสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทราบว่าต้องการให้ญาติ หรือใครเข้าฟังการสอบสวนบ้าง เจ้าตัวก็บอกว่าขอให้ภรรยามาร่วมฟังการสอบสวนพร้อมกับทนาย เรื่องที่บอกว่าตำรวจข่มขู่ เราถามไป เจ้าตัวก็รับสารภาพต่อหน้าภรรยาว่า ไม่มีตำรวจทำร้ายแต่อย่างใด แต่เกิดจากความเครียด เพราะไปไหนก็มีคนล้อมจำนวนมาก เจ้าตัวเกิดความกลัวว่าจะเกิดอะไรกับตัวเองอีกหรือไม่ ทั้งนี้หลังสอบปากคำเสร็จได้ให้นำตัวนายสุวิทย์ไปให้แพทย์ตรวจร่างกาย โดยมีภรรยาของนายสุวิทย์ไปร่วมเป็นพยานด้วยเพื่อความบริสุทธิ์ใจ

"ยุคนี้ไม่มีแล้วที่ตำรวจจะไปซ้อมผู้ต้องหา ยืนยันว่าตำรวจทำคดีอย่างยุติธรรม โปร่งใส การที่ศาลจะออกอนุมัติหมายจับ เราต้องมีพยานหลักฐานที่เพียงพอ"

รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องคดี ไม่ได้มีความหนักใจใดๆ เพราะเราเก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไว้เยอะมาก รวมถึงการตรวจหาดีเอ็นเอในหลักฐานบางอย่าง ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มอีกหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ อยู่ที่พยานหลักฐานว่าจะไปเกี่ยวกับใคร ก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการ

ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนได้ออกติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 2 คน คือ นายสุริยา หรือบังฟิต เริงสมุทร อายุ 31 ปี และนายสุรชัย หรือกิบหลี เริงสมุทร อายุ 37 ปี ล่าสุดมีรายงานว่าทั้ง 2 คนพยายามติดต่อผ่านบุคคลสำคัญในพื้นที่ ต.หนองทะเล ให้เป็นคนกลางประสานกับตำรวจเพื่อเข้ามอบตัว ทำให้ชุดสืบสวนมั่นใจว่าทั้ง 2 พี่น้องน่าจะยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.กระบี่

นอกจากนี้ชุดคลี่คลายคดีเตรียมรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อนำมาประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด โดยเฉพาะกรณีการขุดหลุมฝังรถของนายสุชาติ เบื้องต้นคาดว่าอาจจะมีรถแบ็กโฮอีกคันที่มาทำหน้าที่ฝังกลบ ซึ่งต้องติดตามหาตัวมาสอบปากคำต่อไป.