สงขลา ผวาโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย แอฟริกา ระบาดหนักในมาเลเซีย หวั่นลามข้ามมายังประเทศไทย "พ่อเมือง" ประสาน "มทภ.4" สั่งเข้ม 4 แนวทางป้องกันแนวชายแดน ช่องทางธรรมชาติ ขณะที่วันนี้พบผู้ป่วย 27 ราย สะสมแล้ว 718 ราย

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.64 ที่ จ.สงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากที่เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อินเดีย และสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ที่ระบาดอยู่ในประเทศมาเลเซีย เรื่องนี้ได้ทราบข้อมูลมา 2-3 อาทิตย์แล้ว และได้มีการประชุมร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่แนวชายแดนไทย-มาเลเซียไปแล้ว โดยที่ผ่านมา 99 เปอร์เซ็นต์ ของชายแดนไทย-มาเลเซีย เป็นการเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้องทางด่านพรมแดนสะเดาอาทิตย์ละ 3 วัน คือ วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ วันละ 50-60 คน มีน้อยมากที่ลักลอบเข้ามา เฉพาะเดือนเมษายนจับได้ 5-6 คนเท่านั้น

สำหรับแนวทางการป้องกันโควิดสายพันธุ์อินเดีย และสายพันธุ์แอฟริกาใต้จากมาเลเซีย ได้กำหนดแนวทางป้องกันไว้ 4 แนวทาง คือให้ ตชด.และทหารเข้มงวดในการตรวจแนวรั้วชายแดนของ จ.สงขลา ทั้ง อ.สะเดา นาทวี และสะบ้าย้อย มากยิ่งขึ้น ให้ตำรวจและฝ่ายปกครองตั้งจุดตรวจจุดสกัดอีกชั้นในกรณีที่อาจหลุดรอดมาทางแนวชายแดน ให้ฝ่ายปกครองกำนันผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในหมู่บ้านที่อยู่ติดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เฝ้าระวังบุคคลแปลกหน้าที่แฝงตัวเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ และให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที่พักนำไปกักตัว รวมทั้งกรณีที่อาจจะมีการลักลอบเข้ามาทางระบบขนส่ง ซึ่งขณะยังมีการขนส่งข้ามแดนระหว่างไทย-มาเลเซียได้ ให้ตรวจเพาะเชื้อคนขับทั้งคนไทยและมาเลเซีย และจะต้องมีใบรับรองตรวจเชื้อโควิดทุกคน

...

ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลฮารีรายอที่กำลังจะมาถึง ได้หารือกับทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดแล้ว เพื่อให้งดกิจกรรมการเลี้ยงสังสรรค์การรวมกลุ่ม ส่วนจะมีมาตรการใดเพิ่มอีกในช่วงวันฮารีรายอ ต้องรอฟังคำสั่งประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรีอีกครั้ง

ส่วนภาพรวมโควิดที่ จ.สงขลา ล่าสุดในวันนี้พบผู้ป่วยเพิ่ม 27 ราย รวมยอดสะสม 718 ราย รักษาหายแล้ว 314 ราย และเหลือรักษาที่โรงพยาบาล 403 ราย.