สถานีพัฒนาที่ดินพังงาหนุนเกษตรกรตัวอย่าง ปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน สู่การทำนาข้าว น้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้นำพาวิถีเกษตรทฤษฎีใหม่


เมื่อวันที่ 2 เม.ย.64 นายโรจนินทร์ ม่วงเพชร ประธานเครือข่าย Young Smart Farmer จ.พังงา กล่าวว่า ตนได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่จากเดิมปลูกปาล์มน้ำมัน สู่การทำนาข้าว โดยมีแนวคิดอยากนำวิถีเกษตรแบบเดิมให้ยังคงอยู่จากรุ่นสู่รุ่น เน้นความมั่นคงทางอาหาร จึงนำวิถีการทำนาข้าว ผสมผสานกับการทำเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ในพื้นที่ จนปัจจุบันได้มีการรวมกลุ่ม มีสมาชิก 14 ราย พื้นที่รวมกันทั้งหมดประมาณ 500 ไร่ สิ่งแรกเลยที่ต้องเริ่มเปลี่ยนคือ การจัดการพื้นที่ให้เหมาะสมกับบริบทที่มีอยู่ การสร้างเครือข่ายเน้นการมีวิถีเกษตรในครัวเรือนในชุมชน ให้เกิดความรักสามัคคีกัน ทำกินเองในครอบครัวก่อนนำไปจำหน่าย เน้นให้มีความมั่นคงทางด้านอาหาร ก่อนจะก้าวสู่การเป็นเกษตรกรต้นแบบให้เกษตรกรท่านอื่นๆ ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้วิถีเกษตรที่ตนได้ลงมือทำร่วมกับสมาชิกในชุมชน ให้ตระหนักถึงความมีค่าของสิ่งที่ผ่านมาในอดีตจนสามารถเผยแพร่ผลิตภัณฑ์แปรรูปข้าวไปสู่มือผู้บริโภค ทั้งยังนำศาสตร์พระราชาเข้ามาใช้ นอกจากเกษตรเพื่อชีวิตแล้ว ยังมีเกษตรพาณิชย์ คือมีรายได้จากการทำเกษตรด้วย

...

โดยสถานีพัฒนาที่ดินพังงาได้เข้ามาสนับสนุน ส่งเสริม ทั้งปัจจัยการผลิต องค์ความรู้ต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นในการปรับเปลี่ยนเนื่องจากเป็นพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ เริ่มจากการเข้ามาทดสอบดิน วิเคราะห์ดินว่าจากดินเดิมที่ใช้เพาะปลูกปาล์มน้ำมันเป็นหลักมากว่า 20 ปี ธาตุอาหารชนิดไหนหายไปบ้างและควรเสริมธาตุอาหารชนิดใดเข้าไปก็ได้มีการตรวจสอบตามหลักวิชาการและนำวัสดุปรับปรุงบำรุงมาให้ใช้ในพื้นที่ มีทั้งพืชปุ๋ยสด ปอเทือง ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ โดโลไมท์ พด.สูตร ต่างๆ ตามความเหมาะสม และคอยเป็นพี่เลี้ยงมาให้คำปรึกษาในพื้นที่อยู่เสมอ ส่งผลให้วันนี้เกษตรกรมีความเชื่อมั่นสามารถร่วมกันคิด ร่วมกันทำได้อย่างเข้มแข็ง

ด้านนางสาวยุพาพร นาควิสัย ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินพังงา กล่าวว่า สถานีพัฒนาที่ดินพังงาปฏิบัติงานในด้านการพัฒนาที่ดิน การฝึกอบรมผู้นำเกษตรกร การเผยแพร่กิจกรรมงานพัฒนาที่ดินในเขตของจังหวัดพังงา พร้อมกับการควบคุมการปฏิบัติงานของหน่วยงานของสถานีพัฒนาที่ดินพังงา ซึ่งเกษตรกรที่นี่จะมีรายได้และมีอาชีพที่มั่นคง สามารถที่จะพึ่งพาตนเองได้ เพราะเกษตรกรของจังหวัดพังงา มีคุณภาพชีวิตที่ดี ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน โดยเราได้เข้ามาส่งเสริมความรู้ด้านวิชาการ การทำน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมัก ผลิตภัณฑ์สารเร่งพด.ต่างๆ สารปรับปรุงดิน โดโลไมท์ ปุ๋ยพืชสด ทั้งยังสนับสนุนบริการวิเคราะห์ดินให้เกษตรกร ฝึกหมอดินให้วิเคราะห์ดินเป็น เพราะหมอดินจะเป็นหัวใจสำคัญเป็นแกนนำในหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้าน รวมถึงมีโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน ซึ่งขณะนี้เป็นโครงการใหม่ของปี 64 ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มทฤษฎีใหม่ เพื่อเป็นการลดต้นทุนให้เกษตรกรช่วงโควิด 19

"เมื่อเกษตรกรมีพื้นที่ดินที่ดี ชีวิตก็จะดีตามไปด้วย การทำน้ำหมักชีวภาพและการทำปุ๋ยหมักเพื่อลดต้นทุนของเกษตรกร จะเป็นผลดีต่อสุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภค และจะทำให้ผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น ถ้าเกษตรกร ประชาชนหรือหน่วยงานราชการท่านใดสนใจสามารถติดต่อได้ที่หมอดินอาสาของจังหวัดพังงาทุกหมู่บ้าน" ผอ.สถานีพัฒนาที่ดินพังงา กล่าว

นอกจากนี้ยังมีการดูแลพื้นที่โดยการปลูกหญ้าแฝก ตัดแต่งใบหญ้าแฝกคลุมโคนต้นเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของดิน ปลูกพืชหลากหลาย มีทั้งแตงโม ไม้ผล เช่น ทุเรียนพื้นบ้าน สาริกา หมอนทอง มูซังคิง หนานดำ ก้านยาว มังคุด ลองกอง จำปาดะ เงาะ เป็นต้น และไม้เศรษฐกิจ เช่น มะค่าโมง มะริด จำปาป่า พยูง ตะเคียนทอง ผาด้าม ไข่เขียว ตะเคียนสามพอน นาคบุตร บุญนาค และลูกเนียง สะตอ มะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวน้ำหวาน ลูกจันทน์เทศ เป็นต้น ไว้เป็นที่รองรับการเข้ามาศึกษาดูงาน ส่วนด้านผลผลิตข้าวก็ได้มีการแปรรูปเป็นข้าวสารบรรจุแพ็กละ 1 กก.เพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชนได้อีกด้วย.