วันแรกลงทะเบียน "เราชนะ" ของผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้สูงอายุบ่นอุบ พอต้องใช้สมาร์ทโฟนเลยเข้าถึงความช่วยเหลือไม่ทั่วถึง อยากให้การช่วยเหลือตามทะเบียนราษฎร์ เดินทางลำบาก ลงบ้านยังจะไม่ไหวเลย

เช้าวันที่ 15 ก.พ.64 ที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เวลาก่อน 07.00 น. ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มารอลงทะเบียนโครงการ “เราชนะ” แต่ไม่มี Smartphone ที่รัฐเปิดให้ลงทะเบียนในวันแรก โดยทางธนาคารได้จัดเจ้าหน้าที่คอยจัดระบบและอำนวยความสะดวกให้ผู้มีความประสงค์ที่จะลงทะเบียนโครงการ “เราชนะ” แต่ไม่มีสมาร์ทโฟน เนื่องจากมีผู้มารอใช้บริการจำนวนมาก และตามมาตรการป้องกันโควิด-19

นางช้วน ศรีเภาโฮก อายุ 78 ปี ชาวต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เป็นผู้สูงอายุ อีก 1 คน ที่เดินทางเพื่อรอลงทะเบียนโครงการเราชนะ แต่ไม่มีสมาร์ทโฟน พร้อมไม้เท้า กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตนเองอยู่คนเดียว ลูกๆ ทำงานและอาศัยอยู่ที่อื่น มีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุ และลูกๆ ส่งเงินให้ใช้จ่าย เมื่อมีโครงการช่วยเหลือ เยียวยา เราชนะ แต่โทรศัพท์ที่ใช้เป็นรุ่นเก่า ไม่สามารถลงทะเบียนได้ และทำไม่เป็น จึงต้องอาศัยเพื่อนบ้านมาธนาคาร เนื่องจากร่างกายเคลื่อนไหวลำบาก ต้องใช้ไม้เท้าช่วยเดิน รู้สึกดีใจที่รัฐให้การช่วยเหลือ แต่อยากให้มีระบบการช่วยเหลือที่ผู้สูงอายุ หรือคนจนๆ สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่านี้

...

ขณะที่ นางสาวภาริษา ไชยแก้ว อายุ 32 ปี ชาว อ.ดอนสัก ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้ลางาน เพื่อพา นางวิมล ไชยแก้ว อายุ 68 ปี มารอลงทะเบียนที่ธนาคาร เนื่องจากผู้ต้องการรับสิทธิ์ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนแบบ Smart Card ที่ยังไม่หมดอายุ และมาด้วยตนเองเท่านั้น ไม่สามารถมอบอำนาจได้ โดยกล่าวว่า แม่มีโทรศัพท์แบบปุ่มกดธรรมดา จึงต้องลางานเพื่อพาแม่มาลงทะเบียนที่ธนาคาร โดยส่วนตัวมองว่า การลงทะเบียนรับการช่วยเหลือผ่าน Smart Card สำหรับกลุ่มวัยทำงานไม่มีปัญหา แต่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ใช้แบบปุ่มกด และหากไม่มีลูกหลานก็จะเข้าถึงการช่วยเหลือลำบาก อยากให้รัฐให้การช่วยเหลือแบบทั่วถึง โดยอิงข้อมูลตามทะเบียนราษฎร์ที่มีอยู่แล้ว.