นับว่ายิ่งเห็นปัญหารถจักรยานยนต์หายเกิดขึ้นต่อเนื่องในทุกพื้นที่ แต่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของพื้นที่จังหวัดสงขลา ถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อาจมีทั้งกลุ่มมิจฉาชีพปกติ หรือกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบ จักรยานยนต์ที่ถูกลักนำไปก่อเหตุในพื้นที่อื่น หรือถูกทำเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ทำลายชีวิตทหาร ตำรวจ คนบริสุทธิ์

เมื่อเกิดเหตุรถจักรยานยนต์หายในแต่ละครั้ง จำเป็นที่ฝ่ายสืบสวนของแต่ละโรงพัก สภ. ภ.จ. หรือสืบสวนภาค จะต้องช่วยกันติดตามหารถจักรยานยนต์เหล่านั้นให้เจอ หรือติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้

จะได้ไม่ถูกดัดแปลงก่อเหตุอื่นๆตามมา

ซึ่งจะนำมาซึ่งความสูญเสียและเสียหายอย่างร้ายแรง

จากสถิติรถหายในพื้นที่สามจังหวัด - สี่อำเภอในพื้นที่รับผิดชอบจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. ส่วนหนึ่งเกิดจากความประมาทของเจ้าของรถที่นำรถไปจอดและเสียบกุญแจคาไว้ที่รถ ทำให้คนร้ายลักเอารถไปได้ง่ายๆ

เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้แก้ไขหรือป้องกันได้ง่ายๆ เพียงแค่ทุกคนที่ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ประมาท

ไม่ทิ้งกุญแจคารถไว้

แต่เมื่อเกิดเหตุเป็นหน้าที่ของตำรวจ ติดตามหารถมาคืนเจ้าของต้องติดตามตัวคนร้ายมาให้ได้

ช่วงหลังๆพบว่าคนร้ายที่ลักรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่เป็นเด็ก เยาวชน วัยรุ่น วัยคะนอง และบางส่วนไปพัวพันกับเครือข่ายค้าขายยาเสพติด มีการติดตามทวงหนี้ค่ายา ทวงไม่ได้ยึดรถจักรยานยนต์ไปแทน จึงต้องมีการแก้ไขปัญหายาเสพติดอีกทางหนึ่ง

รถจักรยานยนต์หลายคนอาจคิดว่า ไม่ใช่ทรัพย์สินที่มีราคาแพง แต่บางคนกว่าจะหามาได้ ต้องใช้แรงงาน แรงกายเข้าแลก

อาจเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่มีไว้เพื่อซื้อกับข้าว พาไปทำงาน พาไปโรงพยาบาล หากตื่นขึ้นมาไม่เห็นรถที่จอดไว้ คงจะใจหาย ย่อมทำให้เกิดปัญหาอย่างมาก

...

อาจเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ได้

ตำรวจที่มีหน้าที่ให้ความสำคัญทั้งในแง่การป้องกันและติดตามหารถมาคืนเจ้าของและจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ ซึ่งการสืบสวนหารถ จยย.ที่ถูกขโมยไปนั้นอาจเป็นการป้องกันเหตุอื่นๆที่จะตามมาได้อีกมากมาย

หากมองว่า ธุระไม่ใช่ นับเป็นโชคร้ายของคนในสังคม

ตำรวจอาจจะถูกสังคมตำหนิได้เช่นกัน ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันไม่ประมาท

ทำให้เต็มความสามารถเพื่อสังคมจะได้สงบสุข.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th