ทัพภาค 4 ส่งกำลังพล ยุทโธปกรณ์ รถครัวสนาม น้ำดื่ม ช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วม พร้อมตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.42, ร.5 พัน.1 บูรณาการร่วมกับหน่วยยานเกี่ยวข้องเฝ้าเวรยาม รับแจ้งตลอด 24 ชม. ขณะที่ มทภ.4 ขึ้น ฮ.บินสำรวจสถานการณ์น้ำ

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 2 ธ.ค.63 ที่เทศบาลตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ที่ได้จัดตั้งเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลกำแพงเพชร ที่ได้รับความเสียหายจากระดับน้ำที่ท่วมสูงในพื้นที่ 5 ตำบล คือตำบลกำแพงเพชร ตำบลคูหาใต้ ตำบลท่าชะมวง ตำบลเขาพระ และตำบลควนรู รวมถึงโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็ก และมีน้ำท่วมขังบนถนนเส้นทางเข้าหมู่บ้าน และตามซอยต่าง ๆ เช่น ซอยวังอีคุย, วัดหัวหลาด ซอยยนตรการกำธร 5 ยังมีระดับน้ำสูง โดยฝั่งขาออกจากอำเภอรัตภูมิ เข้าสู่ถนนเพชรเกษม รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ยังคงใช้ถนนฝั่งขาเข้าเพียงเส้นทางเดียว เป็นระยะทางกว่า 400 เมตร ในขณะที่สภาพน้ำในคลองตอนนี้ระดับน้ำยังคงมีปริมาณมาก ต้องเฝ้าระวังน้ำที่สมทบมาจากพื้นที่อื่น สถานการณ์โดยรวมต้องรอการระบายน้ำออก เพราะฝนหยุดตกแล้วและเป็นลักษณะน้ำไหลผ่าน

...

ในส่วนของกองทัพภาคที่ 4 โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 42 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 5 ได้จัดยุทโธปกรณ์ รถครัวสนามไว้บริการเครื่องดื่มและอาหาร พร้อมกำลังพลเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตั้งแต่วันแรกที่ระดับน้ำเริ่มเข้าพื้นที่ กระทั่งเมื่อคืน (1 ธ.ค.63) ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ถึงวิกฤติระดับชั้นสีแดงส่งผลให้ปริมาณน้ำในคลองมีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงเร่งขนย้ายสิ่งของจำเป็นขึ้นบนที่สูง พร้อมเตรียมเคลื่อนย้ายคนออกจากพื้นที่ โดยมีการบูรณาการร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องจัดตั้งเวรยามเฝ้าระวังรับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ สถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในพื้นที่โดยรอบ อ.รัตภูมิ และใกล้เคียง เพื่อเข้าประชุมรับฟังสถานการณ์ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ก่อนหารือแนวทางช่วยเหลือเร่งด่วน

พล.ท.เกรียงไกร กล่าวว่า ขอให้ทุกภาคส่วน ผู้รับผิดชอบตั้งแต่ผู้ว่าราชการ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หน่วยทหารในพื้นที่ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่ง ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 4 เตรียมพร้อมทั้งเครื่องมือยุทโธปกรณ์และกำลังพลในการให้ความช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยที่เกิดจากอุกทกภัย อย่างทันท่วงทีเมื่อมีการร้องขอจากพี่น้องประชาชน

ซึ่งจากกรมอุตุนิยมวิทยาที่แจ้งว่า ภายในวันที่ 1-3 ธันวาคม 63 จะมีสภาวะฝนตกชุกในเขตภาคใต้ ก็ได้สั่งให้ทุกหน่วยได้เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในบางพื้นที่ที่มีน้ำท่วมฉับพลัน ทางหน่วยทหารที่อยู่ใกล้พื้นที่มากที่สุด ทางกองทัพบกก็ได้แบ่งกำลังเข้าไปสนับสนุน และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว ในห้วงเวลานี้ ก็ให้แต่ละศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของกองทัพภาคที่ 4 เปิดระบบประชุมติดตามสถานการณ์ขึ้นทุกหน่วย เพื่อเตรียมการฉุกเฉินในกรณีที่มีน้ำป่าไหลมาจากภูเขาลงสู่พื้นราบได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับแจ้งจากพี่น้องประชาชนแล้วเตรียมการที่จะเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที.