จ.พัทลุง มีฝนตกต่อเนื่อง เกิดน้ำท่วมทั้ง 11 อำเภอ บางหมู่บ้านท่วมสูง 2 เมตร ต้องอพยพทั้งคน สัตว์เลี้ยง ถนนเพชรเกษมถูกตัดขาดหลายช่วง รถเล็กผ่านไม่ได้
เวลา 15.00 น. วันที่ 1 ธ.ค.63 ที่ จ.พัทลุง ฝนยังคงตกต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา กระจายในทุกพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแม่น้ำสายต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ้านเรือนชาวบ้านและพื้นที่การเกษตรทั้ง 11 อำเภอถูกน้ำท่วม
ขณะเดียวกัน กระแสน้ำจากเทือกเขาบรรทัดได้ไหลทะลักเข้าท่วมถนนเอเซีย ระดับน้ำสูงประมาณ 50-80 ซม. จนช่วงพัทลุง-หาดใหญ่ และพัทลุง-นครศรีธรรมราช หลายช่วงรถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยเฉพาะช่วงพัทลุง-หาดใหญ่ ท้องที่ ม.9 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน ม.2 ต.โคกสัก อ.บางแก้ว และ ม.2 ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด
ขณะที่ถนนเอเซียช่วงพัทลุง-นครศรีธรรมราช ม.9 ต.ชะมวง อ.ควนขนุน บริเวณสี่แยกโพธิ์ทอง และพื้นที่ใกล้เคียง มีระดับน้ำสูง 50-70 ซม. รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ในขณะที่เส้นทางสายสี่แยกโพธิ์ทอง-ศรีบรรพต, สายโพธิ์ทอง-ตลาดควนขนุน มีระดับน้ำสูง 80 ซม.-1 เมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้เช่นกัน
...
เช่นเดียวกับบ้านเรือนราษฎรที่ตั้งอยู่พื้นที่ริมทะเลสาบลำปำ (ทะเลสาบสงขลา ตอนใน) ถูกน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ ม.11 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง ชาวบ้านต้องอพยพครอบครัว สัตว์เลี้ยง ประมาณ 93 ครัวเรือน มาพักอาศัยบนถนนสายลำปำ-ปากประ ส่วนที่ ม.4, 5 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน ทางเข้าหมู่บ้านระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร ทำให้เส้นทางถูกตัดขาด ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรไปมา ขณะที่ ม.15 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง ระดับน้ำในหมู่บ้านสูงเกือบ 2 เมตร
ต่อมาเวลา 14.00 น. มูลนิธิพัทลุงการกุศล กำลัง ตชด.434 พัทลุง และกำลังทหารช่าง ช.401 ค่ายอภัยบริรักษ์ อ.ศรีนครินทร์ ได้นำเรือท้องแบนจำนวน 3 ลำ ไปอพยพครอบครัวผู้ประสบภัยที่ถูกน้ำท่วมขัง 15 ครอบครัว รวมทั้งสัตว์เลี้ยงไปพักกับญาติ ขณะที่ช่วงเย็น กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง ได้ประกาศให้พื้นที่ 11 อำเภอของจังหวัดพัทลุงเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย และประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยแล้ว เพื่อให้พื้นที่ทุกอำเภอ ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ตามระเบียบกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าน้ำท่วมในรอบนี้จะหนักและนานกว่ารอบที่ผ่านมา เนื่องจากดินมีปริมาณน้ำสะสมอยู่เดิมแล้ว เมื่อมีฝนตกทั่วพื้นที่จึงทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุงต้องหยุดการค้นหาร่างพระวัดไทรห้อย ตำบลท่ามิหรำ อำเภอเมืองพัทลุง หลังจากที่หายออกจากวัดตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และญาติเชื่อว่าน่าจะพลัดตกคลองหลังวัด เนื่องจากน้ำในลำคลองเพิ่มปริมาณสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งกระแสน้ำแรงจนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถลงไปค้นหาได้ ซึ่งล่าสุด จากสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่จังหวัดพัทลุงมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และสูญหายอีก 1 ราย.