ขนลุกแล้วลุกอีก ชาวบ้าน ต.บ้านควน ที่ตรัง ได้ยินหมา 2 ตัวร้องโหยหวนตลอดทั้งคืน พบนั่งเฝ้าศพหนุ่มจมน้ำแล้วหายไป สารวัตรกำนัน เผยก่อนพบศพได้กลิ่นเหม็นเน่าติดตัวขณะไปหาแมงดาตรงทางสามแพร่ง

จากกรณีพบร่างของ นายคะนอง บุญสนอง หรือแอน อายุ 49 ปี ลอยน้ำคว่ำหน้าเสียชีวิตภายในลำคลองนางน้อย หมู่ 8 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง หลังพยายามลงน้ำเพื่อข้ามไปขึ้นเก็บยอดขี้เหล็ก แต่แรงน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากทำให้พัดร่างสูญหายไปตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา และมีการระดมทีมค้นหาแต่ไม่พบ และมีการยุติการค้นหาไป จนกระทั่งเมื่อเช้าวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้พบศพลอยติดต้นไม้อยู่ภายในน้ำห่างจากจุดสูญหายมาด้านล่างประมาณ 300 เมตร เนื่องจากสุนัขได้เห่าหอนและร้องโหยหวน พร้อมทั้งยืนเฝ้าศพอยู่ตลอดทั้งคืน ตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนจะได้พูดคุยกับ นายสุรนันท์ ล้วนเส้ง อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านใกล้จุดพบศพ ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง อยู่ติดกับลำคลองดังกล่าว กล่าวด้วยความขนหัวลุกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้ยินเสียงสุนัขที่บ้านต่างร้องเห่าโหยหวนตลอดทั้งคืน ร้องกันหนักจนผิดปกติ จึงออกจากบ้านใช้ไฟฉายส่องมาทางหน้าบ้านและในน้ำ แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร กระทั่งช่วงระหว่างที่กำลังจะเดินไปที่รถที่จอดอยู่หน้าบ้านใกล้จุดพบศพ พบว่าสุนัขที่บ้าน 2 ตัวได้ยืนมองและนั่งเฝ้าอะไรบางอย่างที่ริมคลอง เมื่อเห็นดังนั้นตนเห็นว่ามีบางอย่างผิดสังเกตจึงตามมาดูก่อนจะพบว่าศีรษะของศพชายที่จมน้ำตายลอยน้ำอยู่จึงแจ้งไปยังญาติผู้ตาย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ก็อยากให้มีการมาเชิญวิญญาณ เนื่องจากจุดพบศพอยู่ตรงกับหน้าบ้านตนพอดี

...

ด้าน นายเอกวัฒน์ ไกรเทพ อายุ 43 ปี สารวัตรกำนันฝ่ายปกครอง ต.บ้านควน กล่าวว่า สนิทกันกับผู้ตายมาก ก่อนเกิดเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณใต้ต้นขี้เหล็กดังกล่าว โดยพบผู้ตายอยู่ภายในลำคลองระดับน้ำความลึกประมาณหน้าอก ก่อนที่ตนจะถามว่ามาทำอะไร ผู้ตายบอกว่ามาเก็บตนขี้เหล็ก ตนจึงไล่ให้ผู้ตายรีบขึ้นมาบนฝั่ง เพราะเห็นว่าน้ำไหลเชี่ยวเกรงว่าจะเกิดอันตราย โดยผู้ตายก็เชื่อฟังได้มาอยู่บริเวณริมตลิ่ง ก่อนที่ตนจะขับรถออกไป แต่คาดว่าผู้ตายยังไม่ได้ขึ้นมาตามที่ตนบอก ก่อนจะมาทราบข่าวว่าได้สูญหายไป โดยปกติผู้ตายมักจะมาเก็บต้นขี้เหล็กเป็นประจำ แต่แปลกใจว่าทำไมผู้ตายต้องข้ามน้ำไปอีกฝั่ง ทั้งที่มีทางเดินอยู่บนฝั่งโดยที่ไม่ต้องข้ามน้ำไป ปกติผู้ตายไม่มีศัตรูที่ไหน มีแต่คนรักใคร่

นายเอกวัฒน์ เล่าอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาก่อนจะพบศพ ตนได้ออกไปหาแมงดาบริเวณใกล้กับต้นขี้เหล็กซึ่งเป็นจุดที่พบเห็นผู้ตายครั้งสุดท้าย ตลอดระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมง ตนได้กลิ่นเหม็นเน่าอยู่ตลอด ก็พยายามมองหาว่ามีอะไรเน่าตายบริเวณดังกล่าวไหม แต่ปรากฏว่าไม่มี จึงคิดในใจว่าผู้ตายน่าจะมาหาตนอย่างแน่นอน เพราะมีความสนิทและผูกพันกันมาก

ตนจึงได้ตะโกนลั่นทุ่งออกไปว่า "หากเป็นแอนจริงก็ให้มาบอกคืนนี้ว่าอยู่ตรงไหน ตนจะได้ไปตามหาถูก" ตนก็ได้ออกตามหาแต่ก็ไม่พบ แต่กลิ่นก็ยังติดจมูกอยู่ กระทั่งตนได้ขับรถออกมา กลิ่นดังกล่าวที่เหม็นก็ได้หายเป็นปลิดทิ้ง จนกระทั่งตนกลับมานอน รุ่งเช้าตื่นขึ้นมาทราบข่าวว่าพบศพแล้ว โดยบริเวณลำคลองดังกล่าวซึ่งเป็นจุดที่ผู้ตายหายไปเป็นทางสามแพร่ง และเคยมีคนจมน้ำเสียชีวิตมาแล้วก่อนหน้าเมื่อหลายปีก่อน.