หนุ่มวัย 38 ปี ใช้รถบรรทุกสิบล้อเป็นพาหนะ ขนยาบ้าร่วม 2 ล้านเม็ด จากภาคเหนือจ.เชียงใหม่ ลงใต้ไปถูกจับที่ปัตตานี สารภาพ ทำแบบนี้มาแล้ว 5 ครั้ง อ้างเมียเยอะ ต้องใช้เงิน พบสังกัด "แก๊งพี่ใหญ่" ขบวนการยาเสพติดรายใหญ่ มีการลำเลียงยาบ้าครั้งละมากๆ
เวลา 11.00 น. วันที่ 28 ก.ย. ที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผวจ.ปัตตานี พล.ต.ต.จีรวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พ.ต.อ.พรชัย สุวรรณวงศ์ ผกก.สืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนักค้ายาบ้ารายใหญ่ ของกลางจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดมาก่อนหน้านี้
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารพราน 43 ได้ร่วมกันวางแผนสกัดจับกุมบริเวณจุดตรวจเกาะหม้อแกง ม.7 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก ซึ่งเป็นถนนสายหลักเข้าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถสกัดรถเป้าหมายที่กำลังขับมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ 3 จังหวัด เป็นรถบรรทุกสิบล้อ ทะเบียน 71-0229 นครสวรรค์ ควบคุมตัวคนขับ 1 คน ทราบชื่อ นายบุญเลิศ ฉิมสันเที๊ยะ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 311/7 ม.8 ต.ธารทหาร อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ตรวจค้นภายในรถบรรทุกพบถุงพลาสติกจำนวนมากซุกซ่อนอยู่บริเวณหัวกระบะ ลักษณะห่อด้วยพลาสติกสีดำผิดสังเกต เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นยาบ้า จำนวนกว่า 2 ล้านเม็ด ยึดไว้พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
...
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากการจับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ยึดยาบ้า 140,000 เม็ด จากการขยายผล ผู้ต้องหารับสารภาพและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง ที่ลักลอบนำยาเสพติดลงมาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
จนกระทั่งสืบทราบมาว่า เครือข่ายพี่ใหญ่ ซึ่งถือเป็นแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ มีการลำเลียงยาบ้าจำนวนมากจาก จ.เชียงใหม่ลงมาชายแดนใต้เพื่อส่งต่อไปประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงประสานการปฏิบัติพร้อมวางแผนจนกระทั่งจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางจำนวนมากได้ในที่สุด
จากการสอบปากคำ นายบุญเลิศ ฉิมสันเที๊ยะ ผู้ต้องหาสารภาพเบื้องต้นว่า รับจ้างขนมาแล้ว 5 ครั้ง ที่ทำเนื่องจากมีภรรยาหลายคน ต้องการหาเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจึงได้จับกุมเพื่อจะได้สืบสวนขยายผลติดตามยึดทรัพย์และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการกับเครือข่าย ที่ร่วมกระทำผิดและยังไม่ถูกจับกุมต่อไป