ตร.พัทลุงพบอีก 2 วัยรุ่นถูกกระหน่ำยิงคารถเก๋งริมถนน 2 ศพ เชื่อมโยงอีกศพที่ถูกรัวตายหน้าธนาคาร เบื้องต้นเชื่อเชื่อมโยงกันมุ่งปมขัดแย้งส่วนตัวและยาเสพติด ผบช.ภ.9 เรียกประชุม ตร.ล่าคนร้ายแล้ว

จากกรณีเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 29 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุยิงกันตาย 1 ศพ บริเวณหน้า ธ.ก.ส.สาขาท่ามิหรำ ริมถนนราเมศวร์ ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ซึ่งอยู่ห้างจากสี่แยกเอเชียประมาณ 300 เมตร ในที่เกิดเหตุ ตร.พบศพ นายรัตนพงศ์ จันทร์ปน อายุ 38 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 3 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง อยู่ในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณหน้าอก 4 นัด สะโพกด้านซ้าย 3 นัด แขนซ้าย 4 นัด ศีรษะ 4 นัด รวม 15 นัด ในที่เกิดเหตุ ตร.พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 54 ปลอก จึงเก็บไปเป็นหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนต่อไป

อย่างก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ร.ต.อ.ประเสริฐ ด้วงเอียด รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทลุง พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.เมืองพัทลุง พ.ต.ท.ทิวากร คงเพ็ชร รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.อ.สุริยา ปัญญามัง รอง ผบก.ภ.จ.พัทลุง .จนท.หน่วยกู้ภัยมูลนิพัทลุง จนท.พิสูจน์หลักฐานพัทลุง นพ.พงศ์ศักดิ์ โรจนรัตน์ แพทย์เวร รพ.พัทลุง ลงพื้นที่ตรวจสอบและร่วมชันสูตรพลิกศพเหตุยิงกันตาย 2 ศพ ริมถนนสายเอเซีย บริเวณหัวสะพานคลองลำเบ็ด ท้องที่ หมู่ที่ 12 ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 151 หมู่ที่ 12 ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง

...

ในที่เกิดเหตุภายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 กล 6280 กรุงเทพหานคร ตร.พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย จำนวน 2 คน ส่วนบริเวณที่นั่งด้านหลังข้างศพ ตร.พบอาวุธปืนลูกซองสั้น แบบไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ตกอยู่บริเวณที่วางเท้า และพบกระเป๋าสีแดงแบบสะพายตกอยู่ 1 ใบ ภายในกระเป๋ามียาบ้า และไอซ์ อยู่จำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป ส่วนสภาพรถเก๋งคันดังกล่าวยางล้อหน้าด้านซ้ายแตกละเอียด บริเวณหน้ารถมีรอยกระสุนปืน 2 รู กระจกมองข้างด้านซ้ายหัก ส่วนด้านซ้ายช่วงหลังรถมีรอยกระสุนจำนวนหลายนัด ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบเจ้าของรถคันดังกล่าว ทราบว่าผู้เป็นเจ้าของรถนั้น คือ นายมนัส เกตุแก้ว อายุ 42 ปี  ชาวบ้าน หมู่ที่ 6 ต.ควนชะลิก อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทาง ตร.จะได้เร่งขยายไปสู่ผู้ครอบครองรถคนล่าสุดต่อไป

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ ประกอบด้วย นายอรรถกร นุ่นปาน อายุ 25 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 1 ต.โคกชะงาย อ.เมืองพัทลุง โดยสวมเสื้อแขนยาวสีฟ้า กางเกงยีนส์สีดำ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. และกระสุนปืนยาว เข้าที่บริเวณหน้าอก 3 นัด หัวไหล่ด้านขวา 3 นัด แขนขวา 2 นัด บริเวณลำคอด้นซ้าย 1 นัด มือขวา 1 นัด และขาขวา 2 นัด และชายโครงด้านซ้าย 1 นัด รวม 13 นัด ส่วนศพที่ 2 ทราบชื่อภายหลังว่า นายพาสกร ดำสนิท อายุ 21 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 2 ต.ตะแพน อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง โดยสวมเสื้อแขนยาวสีดำ สวมกางเกงยีนส์สีดำ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. และอาวุธปืนยาว เข้าที่บริเวณหัวไหล่ด้านขวา 2 นัด บริเวณลำคอด้านซ้ายกระสุนทะลุขวา 1 นัด ชายโครงซ้าย 2 นัด หน้าอก 3 นัด ไหล่ซ้าย 1 นัด สะโพกด้านซ้าย 1 นัด แก้มซ้าย 1 นัด และขาซ้าย 1 นัด รวม 12 นัด

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ มีการเชื่อมโยงมาจากการผู้เสียชีวิตหนุ่มวัยรุ่นที่ถูกยิงบนถนนหน้าธนาคาร ธกส.สาขาท่ามิหรำ เมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรพบว่าที่บริเวณหน้าธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาท่ามิหรำ ก่อนเกิดเหตุนายรัตนพงศ์ ได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวลงมาพูดคุยกับคนร้าย 1 คน (โดยภายในรถมีคนนั่งมาด้วย 4 คน ) ณ บริเวณข้างร้านข้าวต้ม หลังจากที่พูดคุยกันประมาณ 1 นาที ได้ถูกคนร้ายคนดังกล่าวใช้อาวุธปืนยิงใส่จำนวนหลายนัดจนเสียชีวิตคาที่

...

ส่วนเพื่อนผู้ตายที่นั่งมาด้วยด้านหน้าได้เปิดประตูวิ่งหลบหนีไป จากนั้นคนร้ายอีก 1 คน ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่ผู้เสียชีวิตอีก 2 คนที่นั่งด้านหลังรถเก๋ง ในขณะที่คนร้ายอีก 1 คน ได้นำอาวุธปืนยาว (ไม่ทราบชนิด) ยิงใส่ผู้เสียชีวิตอีกหลายนัด จากนั้นคนร้าย 2 คน เข้ามานั่งในรถเก๋งของผู้ตายก่อนที่จะขับรถเก๋งคันดังกล่าวหลบหนีไปจนยางรถแตกและนำไปทิ้งในที่เกิดเหตุดังกล่าว โดยอยู่ห่างจากธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาท่ามิหรำ ประมาณ 12 กิโลเมตร

ด้าน พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า ในเบื้องต้นเหตุการณ์เสียชีวิตทั้ง 3 ศพ มาจากเหตุการณ์เดียวกันแต่ตั้งเมื่อคืน โดยมีคนร้ายยิงถล่มผู้เสียชีวิตที่บริเวณหน้าธนาคาร ธ.ก.ส. และได้ยิงถล่มรถยนต์เก๋ง ต่อมาคนร้ายได้ขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวพร้อมศพผู้เสียชีวิตมาทิ้งไว้บริเวณริมถนนสายเพชรเกษม ริมคลองชลประทาน ส่วนเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นความแย้งส่วนตัว เรื่องยาเสพติด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามวัยรุ่นกลุ่มของผู้เสียชีวิต ที่หลบหนีไปได้จำนวน 1 คน มาสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงชนวนเหตุในครั้งนี้เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

...

อย่างไรก็ตาม ในตอนสายที่ผ่านมา พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล รอง ผบช.ภ.9 และคณะ ได้เดินทางมายังตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และเป็นประธานในการประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เนื่องจากเห็นว่าการก่อคดีดังกล่าวเป็นการกระทำที่ท้าทายอำนาจรัฐ ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.