คดี "น้องครีม" สาวสงขลาถูกแฟนหนุ่มแทงตาย เพราะคิดว่าจะนอกใจ พ่อคาใจทางบ้านผู้ชายอาจรู้เห็น และลูกสาวก็อาจถูกซ้อมก่อนโดนแทง ขณะที่ ตร.ส่งผู้ต้องหาฝากขัง ค้านประกัน เจ้าตัวนิ่งเฉยไม่ยอมพูดอะไร

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังที่พักสงฆ์สวนธรรม บ้านยางเกาะ ม.9 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.รุ่งนภา ศิริไชย อายุ 18 ปี หรือ น้องครีม ที่ถูก นายณัฐวุฒิ กาวชู อายุ 22 ปี หรือเนม แฟนหนุ่ม แทงจนเสียชีวิตเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บ้านของฝ่ายชาย ในพื้นที่ ม.2 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา บรรยากาศในงานศพเป็นไปอย่างเศร้าโศกและความอาลัยของพ่อแม่และญาติพี่น้องที่มาร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ขณะที่ นางพรรัตน์ เบี้ยขาว อายุ 45 ปี มารดาของน้องครีม ที่ยังทำใจไม่ได้  นั่งร้องไห้อยู่หน้าโลงศพ และรูปถ่ายของลูกสาว รวมทั้ง นายวัชระ ศิริไชย อายุ 53 ปี ผู้เป็นบิดาก็ยังทำใจไม่ได้เช่นกัน และแม้ว่าทั้งพ่อและแม่จะแยกทางกัน แต่ทั้งคู่ก็มาช่วยกันจัดงานศพให้กับน้องครีม ลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย

...

นางพรรัตน์ แม่ของน้องครีม กล่าวถึงสาเหตุการตายอันน่าสลดใจของลูกสาวว่า ในวันที่ลูกสาวถูกแฟนหนุ่มแทงเสียชีวิต ในตอนบ่าย 2 โมง แม่ของแฟนหนุ่มได้โทรศัพท์มาหาตน บอกว่าขอให้น้องครีมช่วยไปหาลูกชายที่บ้าน เพราะหากน้องครีมไม่ไปลูกชายจะไม่ไปโรงพยาบาล ตนเองจึงยอมให้ลูกสาวไป โดยก่อนไปน้องครีมยังบอกตนว่า "แม่เข้าใจหนูนะ" ตนก็บอกว่าเข้าใจ จากนั้นลูกสาวก็นั่งรถสองแถวเดินทางจากบ้านใน อ.สะเดา ไปหาแฟนหนุ่มที่ อ.คลองหอยโข่ง แล้วต่อมาในเวลา 5 โมงเย็น พ่อเลี้ยงของแฟนหนุ่มได้โทรมาหาตนบอกว่า น้องครีมเกิดอุบัติเหตุถูกรถชนให้รีบไปโรงพยาบาลคลองหอยโข่งด่วนที่สุด

"ตอนนั้นตนก็ตกใจมาก และรีบเก็บร้านเพื่อไปหาลูก แต่ยังไม่ทันที่จะออกจากบ้าน แม่ของแฟนหนุ่มก็โทรมาหา บอกว่าเนมได้แทงน้องครีมตายแล้ว ตอนนั้นกรีดร้องแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยินเสียงจากปลายสาย และหมดแรงทรุดลงเดินไม่ไหว ก่อนจะให้ญาติพาไปหาลูกสาวที่โรงพยาบาล" แม่ของน้องครีม กล่าว

แม่ของน้องครีม กล่าวต่อว่า ลูกสาวกับแฟนคบหากันมาได้ราว 1 ปี และเคยเห็นหน้าแฟนหนุ่มครั้งเดียวตอนที่มาส่งที่บ้าน และยังบอกว่าให้ลูกสาวพาแฟนหนุ่มเข้าบ้านด้วย โดยลูกสาวรักแฟนหนุ่มมาก วันเกิดเหตุก็ยังซื้อก๋วยเตี๋ยวไปฝากด้วย เพราะแฟนหนุ่มบอกอยากกิน นอกจากนี้ น้องครีม ยังเคยซื้อกางเกงบ็อกเซอร์ให้แฟนหนุ่ม รวมทั้งหมวกแต่ยังเก็บไว้ที่บ้านไม่ได้เอาไปให้

นางพรรัตน์ กล่าวอีกว่า ช่วงหลังลูกสาวกับแฟนหนุ่มเริ่มห่างๆ กัน จากปกติที่จะคุยกันทุกวัน แต่พักหลังน้องครีมเริ่มมาอยู่กับตน และช่วยงานที่ร้านมากขึ้น และมารู้ทีหลังว่าทั้งคู่เริ่มมีปัญหากัน เพราะถูกทำร้ายร่างกายหลายครั้ง และบางครั้งที่กลับมาบ้านบอกว่าปวดหัว ขอนอน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าถูกทำร้ายมา ยังคิดว่าลูกสาวขี้เกียจด้วยซ้ำ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมาเพิ่งจัดงานวันเกิดให้กับน้องครีมเป็นปีแรกที่บ้าน เพราะปกติวันเกิดทุกปีน้องครีมก็จะฉลองกับเพื่อนๆ และลูกสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน โดยกำลังเรียน กศน. จะจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 และจะไปเรียนทุกวันอังคาร

ด้านพ่อของน้องครีม เผยถึงความรู้สึกว่า เวลานี้ยังรับความจริงและทำใจไม่ได้เมื่อเห็นลูกสาวถูกแทงเสียชีวิต ตอนไปดูศพลูกที่โรงพยาบาล ยังเอามือไปปิดตาลูกสาวด้วยตัวเอง โดยสิ่งที่ยังสงสัยอยู่คือ สภาพร่างกายของลูกสาวมีรอยเขียวช้ำทั้งคอ และแผ่นหลังเหมือนกับถูกทำร้าย และทรมานก่อนที่จะถูกแทงเข้าที่ราวนมซ้าย โดยญาติได้คุยกันว่าหากไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้ ก็จะยังไม่เผาศพของน้องครีม แม้จะกำหนดวันเผาไว้ คือ วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคมนี้ และอาจจะเคลื่อนศพไปเรียกร้องความเป็นธรรมที่ สภ.คลองหอยโข่งด้วย เพราะเชื่อว่าลูกสาวถูกซ้อมก่อนที่จะถูกแทง อีกทั้งหลังเกิดเรื่องทางพ่อแม่ของฝ่ายชายก็ไม่เคยติดต่อมา หรือมาร่วมพิธีศพ หรือแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย โดยเชื่อว่าในวันเกิดเหตุคนที่บ้านฝ่ายชายน่าจะรู้เรื่องดีที่สุด และน่าจะช่วยเหลือลูกสาวได้ไม่ถึงขั้นต้องถูกแทงตายแบบนี้

...

ด้าน นางปราณี สีสองสม อายุ 68 ปี ยายของน้องครีม กล่าวว่า ส่วนตัวยังสงสัยอยู่ว่าทำไมต้องบิดเบือนข้อเท็จจริง และทำไมญาติของแฟนหนุ่มไม่ช่วยกันห้าม ตอนที่หลานสาวไปหาแฟนยังได้เข้ามากอดยายแล้วเอาก๋วยเตี๋ยวจากที่ร้านสองถุงไปให้แฟนหนุ่มอีกด้วย ตนเคยเห็นหน้าแฟนหนุ่ม 2 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้พูดคุย และวันที่ไปเห็นศพน้องครีมยังคิดว่าฝันไปไม่ใช่เรื่องจริง เพราะปกติหลานสาวเป็นเด็กน่ารัก และช่วยส่งก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้าในหมู่บ้าน ไม่คิดว่าจะมาจบชีวิตแบบนี้

...

ขณะที่ น.ส.จิราภรณ์ ศิริไชย อายุ 19 ปี หรือโบว์ พี่สาวของน้องครีม กล่าวว่า น้องสาวรักแฟนคนนี้มากเพราะช่วงที่คบกันเพื่อนของน้องสาวมาเล่าให้ฟังว่า ถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายหลายครั้ง แต่ก็ยอมให้อภัยมาตลอด และเคยเตือนน้องสาวหลายครั้งให้เลิกกับผู้ชายคนนี้ เพราะสงสาร แต่เพราะความรักจึงทนมาตลอด สุดท้ายก็มาถูกแฟนหนุ่มแทงเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านแฟนหนุ่มซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ เป็นบ้านห้องแถว ในพื้นที่ ม.2 ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยดโข่ง พบว่าสภาพบ้านถูกล็อกกุญแจไม่มีใครอยู่ในบ้าน ผู้สื่อข่าวได้โทรหาแม่ของแฟนหนุ่ม แต่ก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยให้สามีซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของแฟนหนุ่มพูดแทน แต่ก็บอกเพียงสั้นๆ ว่า ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะทั้งคู่ไม่ได้ทะเลาะกัน และตอนเกิดเหตุก็อยู่ในบ้านกันสองคน โดยแม่อยู่นอกบ้าน ก่อนที่จะตัดสายทิ้งไป 

ส่วนคดีนี้ ตำรวจได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลคลองหอยโข่งเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 63 ว่ามีหญิงสาวถูกแทงเสียชีวิต หลังจากไปตรวจสอบพบว่า ถูกแทงเข้าใต้ราวนมซ้าย 1 แผล เป็นสาเหตุให้เสียชีวิต โดยถูกแทงด้วยอาวุธมีดพับยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ที่เป็นมีดที่แขวนรวมกับพวงกุญแจ

...

ตำรวจพนักงานสอบสอบสวน สภ.คลองหอยโข่ง เปิดเผยว่า การสอบสอบสวนผู้ต้องหาเสร็จแล้ว โดยตำรวจได้แจ้งข้อหา นายณัฐวุฒิ หรือเนม ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนสาเหตุ นายณัฐวุฒิ ให้การว่า มาจากความหึงหวง และบันดาลโทสะ เพราะกลัวว่าแฟนสาวจะไปมีแฟนใหม่ โดยทางญาติผู้ต้องหากล่าวให้การอ้างว่า นายณัฐวุฒิ มีอาการป่วยทางจิตเคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประสาทมาครั้งหนึ่งแล้ว และกำลังจะนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ ในวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ถัดจากวันเกิดเหตุ 1 วัน และแม่ได้โทรศัพท์ไปขอให้น้องครีมมาที่บ้าน เพราะถ้าไม่มา นายณัฐวุฒิจะไม่ยอมไปโรงพยาบาล

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว นายณัฐวุฒิ ออกจากห้องขังสภ.คลองหอยโข่ง ไปส่งที่เรือนจำจังหวัดสงขลาทันที หลังจากที่ได้ฝากขังต่อศาลจังหวัดสงขลาผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ไปแล้ว และคัดค้านการประกันตัว รวมทั้งไม่มีญาติพี่น้องมายื่นของประกันตัวแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ ระหว่างที่นำตัวขึ้นรถไปฝากขังผู้สื่อข่าว ได้สอบถามความรู้สึกของนายณัฐวุฒิ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ก็เงียบไม่ยอมตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าว โดยเฉพาะเรื่องความรักของทั้งคู่ ที่แฟนสาวรักตนเองมากจนต้องมาถูกแทงตาย.