จับไอ้แบงก์ ขี้ยาที่ห้วยยอด จ.ตรัง ฆ่าอำมหิตชายวัย 70 ปี ใช้ค้อนทุบหัวดับคาวัด นำของกลางไปเผาทำลายทิ้ง พบเสพเมาคลั่งยาชอบทำร้ายทำลายข้าวของชาวบ้าน เป็นที่เอือมระอา
วันที่ 15 ก.ค. ร.ต.อ.มนตรี สงคง รอง (สว.) สอบสวน สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง รับแจ้งเหตุพบศพชายสูงอายุถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ภายในวัดเหรียงท่าไทร หมู่ 2 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.ห้วยยอด พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ห้วยยอดและอาสามูลนิธิสว่างภักดีตรัง
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในวัด พบศพนายจำเนียร หรือลุงหิ้น พรหมอินทร์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 190 หมู่ 12 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด นอนหงายเสียชีวิต สภาพศพไม่สวมเสื้อ นุ่งผ้าขาวม้า มีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งบริเวณท้ายทอย 1 แผล คางหัก ข้อศอกซ้าย 1 แผล คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง

ต่อมามีพลเมืองดีแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า พบชายมีอาการเมาอาละวาด คาดว่าเป็นฆาตกรที่ลงมือทำร้ายนายจำเนียร บริเวณตลาด อ.บางดี จากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปจับกุม ทราบชื่อต่อมา นายเอกสิทธิ์ หรือแบงก์ เกลาเกลี้ยง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 2 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จากการสอบถาม รับว่าเป็นคนใช้ค้อนทุบทำร้ายนายจำเนียรจริง และนำเจ้าหน้าที่ไปที่บ้านร้างใกล้ตลาด ภายในบ้านพบ หัวค้อนเหล็กในกองฟืน ส่วนด้ามค้อนเป็นไม้ถูกไฟเผาทำลายไปหมดแล้ว
...
จากการสอบสวน พระธีระ สันเกียรติคุณ ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.40 น. ของคืนวันที่ 14 ก.ค. ขณะที่กำลังจำวัดอยู่ที่กุฏิ ได้เห็นชายวัยรุ่นเดินอยู่ในความมืด ทราบชื่อนายเอกสิทธิ์ หรือไอ้แบงก์ ก่อนได้ยินเสียงนายจำเนียร ผู้ตาย ถามนายเอกสิทธิ์ว่า มืดๆ ค่ำๆ เข้ามาในวัดทำไม จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้ตายร้องโอ๊ยๆ 3 ครั้งแล้วเงียบไปแต่ไม่กล้าออกไปดู จนตอนเช้าได้ให้พระลูกวัดไปดูที่เกิดเหตุ ก็พบศพผู้เสียชีวิต
ด้าน นายกนกเทพ เดชภักดี พยานให้การว่า ตนเห็นนายเอกสิทธิ์ มีอาการเมาอาละวาดอยู่บริเวณตลาด ตนจึงได้เข้าไปห้ามปราม แต่กลับถูกพูดข่มขู่ว่า เดี๋ยวจะทุบให้ตายเหมือนลุงหิ้นที่วัดเหรียง ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ต่อมาทราบภายหลังว่านายจำเนียรถูกทำร้ายเสียชีวิตในวัดแล้ว ซึ่งปกติผู้ต้องหามีอาการเมายาเสพติดและอาละวาดทำร้ายคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง จนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้าน
ขณะที่ พ.ต.ท.ประเสริฐ เผยว่า ผู้ตายได้อาศัยอยู่ในวัดมาประมาณ 10 ปีแล้ว โดยช่วยทำความสะอาดภายในบริเวณวัดและช่วยพระสงฆ์ทำธุระต่างๆ ในวัด จากการสอบสวนพยานทั้งพระในวัดและพยานแวดล้อมส่วนใหญ่พบเห็นนายเอกสิทธิ์ หรือแบงก์ เดินไปในวัดในช่วงเวลาเกิดเหตุ มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดจนมีอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของและทำร้ายคนอื่น จนคนที่บ้านทนไม่ไหวจนต้องย้ายออกเพราะกลัวถูกทำร้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวก็ยังมีอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดอยู่ จากการตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วงจากการเสพเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ด้วย เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เตรียมฝากขัง