ช่วงวันหยุดยาวคนเรือนแสน แห่กราบไหว้ขอพร "ไอ้ไข่" วัดเจดีย์ เมืองคอน จนแน่นวัด-คาดดึงรายได้เข้าจังหวัดกว่า 300 ล้าน เจ้าอาวาสประชด ถนนมาวัดการจราจรไม่มีปัญหา ติดมา 20 กว่าปีจนเป็นเรื่องปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศหลังช่วงวันหยุดยาว 4 วัน เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษาที่ผ่านมา มีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวนมากแห่เดินทางมายังวัดเจดีย์ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกราบไหว้ขอพรไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์สุดยอดกุมารเทพในยุคนี้ แม้เส้นทางคมนาคมจะค่อนข้างยากลำบาก โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักจากบ้านต้นเหรียง ต.เสาเภา-ไปยังถึงวัดเจดีย์ ระยะทางประมาณ 8 กม. ที่ถนนคับแคบชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก

เบื้องต้น ทางวัดต้องจัดเจ้าหน้าที่อาสาจราจร มาคอยระบายการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เดินทางมายังวัดเจดีย์ ในขณะที่สองข้างทางมีการก่อสร้างอาคารร้านค้า ร้านจำหน่ายสินค้าที่ใช้สำหรับการบนบาน หรือแก้บนไอ้ไข่ รวมทั้งร้านอาหาร ร้านน้ำชา-กาแฟ เรียงรายตลอดสองข้างทาง ซึ่งทั้ง 4 เส้นทางที่มุ่งหน้าสู่วัดเจดีย์ เต็มไปหมด โดยประชาชนและนักท่องเที่ยวถือโอกาสแวะลงจับจ่ายใช้สอย เลือกซื้อสิ่งของเซ่นไหว้ แก้บน เช่น ลูกประทัด ตุ๊กตาไก่ ชุดทหาร และอื่นๆ สร้างรายได้ให้กับทุกร้านวันละหลายหมื่นบาท

...

ส่วนร้านที่ได้อานิสงส์ขายดีที่สุด คือ ร้าน “บ่าวเอประทัด” ที่ขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาร้านที่จำหน่ายสินค้าเซ่นไหว้ แก้บนได้ไข่วัดเจดีย์ บริเวณร้านยาวเกือบ 100 เมตร และตั้งอยู่ริมถนนตรงข้ามกับทางเข้าวัดเจดีย์พอดี มีขายทุกอย่างครบวงจร และราคาไม่แพง ทั้งนี้ทราบว่าในช่วงวันหยุด 4-5 วันที่ผ่านมา ทางร้านมียอดจำหน่ายสินค้าทุกชนิดได้กว่า 5 ล้านบาทเลยทีเดียว

ในขณะที่สองฝั่งถนนมีรถยนต์จอดเรียงรายหลายร้อยคัน และเมื่อเข้าไปภายในวัดด้านขวามือเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่มีรถจอดได้นับพันคน ส่วนด้านซ้ายมือเป็นอาคารสำหรับจุดประทัดแก้บนผู้คนที่เคยมากราบไหว้บนบานขอพร และประสบผลสำเร็จ โดยในช่วงเทศกาลคนรับจ้างจุดประทัดจำนวน 2-3 คนจะมีรายได้วันละ 50,000 บาท แบ่งให้วัดครึ่งหนึ่งส่วนที่เหลือก็นำมาแบ่งกันทำให้มีรายได้วันละ กว่า 8,000 บาท/คน ในขณะที่ทางวัดได้จัดระเบียบทางเข้าวัดโดยการตั้งจุดคัดกรอกโควิด-19 อย่างเข้มงวดจริงจัง โดยหลังจากจอดรถทุกคนที่จะเข้าไปในวัดจะต้องจุดตรวจคัดกรอง มีเจ้าหน้าที่ตรวจวัดไข้ และใช้เจลล้างมือก่อนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” และทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย

พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรืออาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมามีผู้คนหลั่งไหลมาวัดเจดีย์เพื่อกราบไหว้ขอพระไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะวันเสาร์ที่ 4 ก.ค. มียอดผู้ที่เดินทางมาวัดเจดีย์กว่า 50,000 คน วันอาทิตย์ที่ 5 ก.ค. ประมาณ 40,000 คน ส่วนวันที่ 6-7 ก.ค. วันละ 30,000 คน รวม 4 วันผู้คนที่เดินทางมาวัดเจดีย์น่าจะเกิน 150,000 คน คนแน่นจนต้องเบียดเสียดกัน และอาตมาไม่กล้าเดินไปไหนภายในวัด

อาจารย์แว่น กล่าวต่อว่า หากถามว่าเส้นทางการเดินมายังวัดเจดีย์ ยากลำบากหรือมีปัญหาหรือไม่ อาตมาอยากเรียนว่าไม่มีปัญหา เพราะมันมีปัญหามายาวนานไม่ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักต้นเหรียง-วัดเจดีย์ ระยะทาง 6-7 กม. ถนนคับแคบและชำรุดทรุดโทรม ทำให้การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก การจราจรติดขัดอย่างหนัก ซึ่งกว่าจะเดินทางเข้ามาถึงวัดเจดีย์ใช้เวลานานนับชั่วโมง อาตมาก็ใช้เส้นทางดังกล่าวเช่นกันและคิดว่ามันพอจะไปได้ แต่ตอนนี้ทราบว่าทาง อบจ.เขาเริ่มเข้ามาซ่อมถนนให้แล้ว ซึ่งจะซ่อมกันอยู่แบบนี้ทุกปี

...

เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในเส้นทางอื่นๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ก็มีการขยายผิวการจราจรค่อนข้างเรียบร้อย อีกสายหนี่งจากบ้านต้นตอมาถึงวัดเจดีย์ ก็กำลังเร่งก่อสร้างโดยขยายเป็น 9 เมตร ไหล่ทางข้างละ 3 เมตรถือว่าเป็นถนน 4 เลนย่อมๆ ก็เหลือเฉพาะถนนในส่วนที่ อบจ.นครศรีธรรมราช รับผิดชอบจากบ้านต้นเหรียงมาถึงวัดเจดีย์ที่ยังคับแคบ และเป็นหลุมเป็นบ่อในตอนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วง 4-5 วัน ช่วงเทศกาลวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษาที่ผ่านมา คาดว่าผู้คนที่เดินทางเข้ามาที่วัดเจดีย์ ก่อนจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่อในสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อาทิ ไปกราบไหว้พระบรมธาตุเจดีย์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง วัดเขาพระทอง อ.ชะอวด เพื่อกราบไหว้หลวงพ่อองค์ใหญ่ และเช่าทอนหัวนะโม, วัดธาตุน้อย อ.ช้างกลาง เพื่อกราบไหว้สรีรสังขารพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ วัดประดิษฐานราม อ.ทุ่งใหญ่ เพื่อกราบไหว้สรีรสังขารพ่อนวลนวล ปริสุทโธ และวัดหรงบน อ.ปากพนัง เพื้อกราบไหว้สรีรสังขาร พ่อท่านเขียว อินทมุนี ก่อนจะเดินทางไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช 1-2 วัน สามารถสร้างรายได้เข้าจังหวัดไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท.

...