อธิบดีกรมธนารักษ์ นำคณะลุยแก้ปัญหาชาวบ้านครอบครองที่ดินราชพัสดุ "เกาะเต่า สุราษฎร์ธานี" ยัน จริงใจ ร่วมแก้ไขเพื่อความยั่งยืน อยากให้ราษฎรเข้าสู่ระบบผู้เช่าถูกต้องตามกฎหมาย
วันที่ 2 ก.ค. นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ นายวิชวุทน์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายดนัย วิจารณ์ ผู้ตรวจราชการกรมธนารักษ์ นายสมมาตร มณีหยัน ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีการสำรวจและฐานข้อมูลที่ราชพัสดุ นายจงภัก ใจดี ธนารักษ์ พื้นที่สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ครอบครองที่ราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ สฎ.588 (เกาะเต่า) พร้อมกับติดตามความคืบหน้าโครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในการนี้ ได้ประชุมหารือกับแกนนำชุมชน นายอำเภอเกาะเต่า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเต่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ ประมาณ 200 คน เพื่อรับทราบปัญหา ความต้องการ ตลอดจนหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
...
นายยุทธนา ได้กล่าวว่า พื้นที่บนเกาะเต่า เดิมใช้ประโยชน์ในราชการ กรมราชทัณฑ์ เป็นที่ตั้งเรือนจำกักขังนักโทษการเมือง (กบฏบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร ก่อนปี 2476 กรมราชทัณฑ์ได้นำส่งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุไว้เมื่อปี พ.ศ.2478 เป็นแปลงหมายเลขทะเบียนที่ 34 สภาพเกาะเต่าจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304 (3) นอกจากนี้ยังมี เกาะหางเต่า เป็นบริวารของเกาะเต่า จึงเป็นที่ราชพัสดุด้วย ปัจจุบันขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุเป็นแปลงหมายเลขทะเบียน ที่ สฎ.588 โดยมีอาณาเขตคงเดิม คือ เกาะเต่าทั้งเกาะ และเกาะนางยวน มีเนื้อที่ตามภาพถ่ายทางอากาศ เกาะเต่าประมาณ 15,000 ไร่ และเกาะนางยวน ประมาณ 219 ไร่ มีหลักฐานเป็น ส.ค.1 เลขที่ 1 ซึ่งเป็น ส.ค.1 ฉบับเดียวบนเกาะเต่า ทั้งนี้ หากราษฎรยื่นคำร้องขอเช่าก่อนวันที่ 18 สิงหาคม 2564 จะได้รับค่าเช่าในอัตราผ่อนปรน โดยเพื่ออยู่อาศัยและการเกษตร อัตราไร่ละ 40 บาทต่อปี และเพื่อการท่องเที่ยว หรือเพื่อประโยชน์อย่างอื่น ไร่ละ 200 บาทต่อเดือน ในการนี้ นายยุทธนา ได้รับข้อสังเกตของราษฎรเพื่อนำไปหารือแนวทางปฏิบัติร่วมกัน เพื่อกำหนดนโยบายก่อนลงมาสู่ระดับปฏิบัติ โดยให้ถือเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนของกรมธนารักษ์ ทั้งนี้ ได้สั่งการไปยังธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานีเร่งรัดการพิสูจน์สิทธิ์ การจัดให้เช่า และการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วด้วย
นายยุทธนา กล่าวทิ้งท้ายว่า การแก้ไขปัญหาพื้นที่เกาะเต่า ได้พยายามมีการแก้ไขปัญหามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 ในวันนี้ กรมธนารักษ์ มีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาการครอบครองพื้นที่ดังกล่าว และอยากให้ราษฎรเข้าสู่ระบบการเป็นผู้เช่าที่ราชพัสดุ เพื่อให้การครอบครองพื้นที่เป็นไปอย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งปัจจุบันจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ดำเนินการจัดให้ราษฎรได้รับสิทธิ์การเช่าไปแล้ว จำนวน 298 ราย เนื้อที่ประมาณ 2,407-1-46.6 ไร่ แบ่งเป็นเพื่ออยู่อาศัย จำนวน 10 ราย เพื่อการเกษตร จำนวน 61 ราย เพื่อประกอบธุรกิจท่องเที่ยว จำนวน 220 ราย และเพื่อประโยชน์อย่างอื่น จำนวน 7 ราย สำหรับราษฎรที่จะโต้แย้งสิทธิและประสงค์จะขอดำเนินการพิสูจน์สิทธิ ก็สามารถแจ้งความประสงค์ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ สุดท้าย การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะประสบความสำเร็จได้ หากทุกฝ่ายเข้าใจและยอมรับในกติกาที่กำหนดไว้ และกรมธนารักษ์ต้องการที่จะแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนานด้วยความจริงใจ และพร้อมที่จะรับฟังทุกปัญหาและความต้องการของพี่น้องชาวเกาะเต่าทุกๆ คน.
...