ชาวบ้านโวย นายทุนใช้รถแบ็กโฮ 2 คัน ขุดทะเลทำถนน ลงไปวางท่อสูบน้ำเข้าฟาร์มเลี้ยงกุ้ง เขตติดต่ออ.หลังสวน-ละแม จ.ชุมพร ส่งผลระบบนิเวศชายฝั่งเสียหาย วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ
วันที่ 30 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน มีนายทุนใช้รถแบ็กโฮ 2 คัน ขุดดินทรายในทะเลขึ้นมาทำเป็นคันคูคล้ายถนนยื่นลงไปในทะเล ยาวเกือบ 100 เมตร เพื่อให้รถแบ็กโฮขับลงไปขุดดินวางท่อสูบน้ำทะเลขึ้นไปใช้ในฟาร์มกุ้งขนาดใหญ่บนชายฝั่ง บริเวณพื้นที่เขตรอยต่อระหว่างอำเภอหลังสวน และอำเภอละแม จ.ชุมพร
พบว่า ลักษณะการขุดดินทะเลขึ้นมาเป็นคันคูคล้ายถนนคู่ขนาน เพื่อให้รถแบ็กโฮขับลงไปขุดตักดินระหว่างกลางในการวางท่อขนาดใหญ่แล้วฝังกลบ เพื่อต้องการสูบน้ำขึ้นไปใช้ในฟาร์มเลี้ยงกุ้งขนาดใหญ่บนชายหาด ซึ่งการทำในลักษณะนี้ชาวบ้านมองว่าไม่น่าจะถูกกฎหมาย และอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลชายฝั่งได้ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคต
นางสาวชิดสุภางค์ ชำนาญ เลขานุการสมาคมเพื่อนสิ่งแวดล้อมชุมพร และในฐานะคณะอนุกรรมการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จ.ชุมพร พร้อมด้วย นายธนเทพ กมศิลป์ ผู้ทรงคุณวุฒิฯ ร่วมกันให้ความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า ปัจจุบันการที่หน่วยงานรัฐหรือเอกชน จะมีโครงการก่อสร้างการเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือโครงการอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะต้องมีการศึกษาผลกระทบ ผลได้ผลเสีย เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของหลายหน่วยงาน ดังนั้นจะอนุมัติหรืออนุญาตให้ทำอะไรเพียงหน่วยงานเดียวเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้ว
...
นายธนเทพ กล่าวต่อว่า ในกรณีนี้จึงไม่ทราบว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ หากมีการขอถูกต้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมเจ้าท่า ได้มีการติดตามการดำเนินงานของผู้ประกอบการรายนี้หรือไม่ เพราะหากดูจากภาพหลักฐานการร้องเรียนการขุดดินทะเลขึ้นมาทำคันถนนทั้งสองข้างยื่นยาวออกไปในทะเล เพื่อให้รถแบ็กโฮขับลงไปขุดวางท่อขนาดใหญ่ สูบน้ำเข้าไปใช้ในฟาร์มเลี้ยงกุ้ง ไม่น่าจะถูก เพราะการใช้รถแบ็กโฮขุดลักษณะนี้ถือเป็นการเหยียบย่ำ ส่งผลกระทบต่อหน้าดินและชายฝั่งอย่างมาก ดังนั้น จึงตั้งข้อสังเกตว่าหากมีการขออนุญาตอย่างถูกต้องแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงไปควบคุมดูแลการทำงานหรือไม่ หรือแค่เซ็นอนุมัติอย่างเดียวแล้วปล่อยให้ผู้ประกอบการทำได้ตามใจชอบ ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องจะต้องลงไปตรวจสอบและดำเนินการผิดถูกก็ว่ากันไปตามกฎหมาย
ด้าน นาวาเอกกิตติพงษ์ พุ่มสร้าง รอง ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จ.ชุมพร เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเบื้องต้นและได้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานแล้ว ซึ่งผู้รับเหมาอ้างว่าได้ขออนุญาตถูกต้อง แต่อย่างไรก็ตาม การใช้รถแบ็กโฮลงไปทำงานในทะเลลักษณะนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง จริงๆ แล้วจะต้องมีทุ่นหรือแพสำหรับให้รถแบ็กโฮลงไปทำงาน ไม่ใช่ขุดดินทะเลขึ้นมาทำคูถนนยื่นลงไปในทะเล เพื่อให้รถแบ็กโฮขับลงไปทำงานขุดดินฝังท่อเช่นนี้ เพราะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทรัพยากรชายฝั่งอย่างมาก ซึ่งตอนนี้ตนได้ประสานไปยังกรมเจ้าท่าและผู้เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อลงไปตรวจสอบฟาร์มกุ้งแห่งนี้ ว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่อย่างไร เพื่อป้องกันปัญหาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไป