จนท.นำโดรนบินตรวจสอบไฟป่าพรุบาเจาะแบบแนวดิ่ง พร้อมจัดกำลังเดินเท้าเข้าดับให้มอดสนิทในวันนี้ ด้านรองผู้ว่าฯ นราธิวาส ขอบคุณ จนท.ทุกฝ่ายที่ร่วมปฏิบัติการดับไฟกันมาร่วมเดือน
ความคืบหน้าสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ ต.ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ที่เริ่มไหม้มาตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.63 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ (8 มิ.ย.63) รวมระยะเวลา 25 วันแล้วนั้น เนื่องจากสภาวะฝนที่ตกลงมาติดต่อกันในช่วงบ่ายถึงค่ำเป็นเวลา 2-3 วัน ทำให้สถานการณ์ไฟป่าเริ่มมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้นมาก

นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส กล่าวภายหลังประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเย็นของวานนี้ (7 มิ.ย.) เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ ตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำโดรนขึ้นบิน เพื่อตรวจสอบสภาพไฟป่าพรุในพื้นที่ที่เกิดเหตุ ประมาณ 2,300 ไร่ โดยได้ยกเลิกการขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์เฉพาะกิจดับเพลิง ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแล้ว แต่ยังคงระดมสรรพกำลังพร้อมเครื่องมือต่างๆ เดินเท้าเข้าปฏิบัติการทางภาคพื้นดินแทนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วงเย็นที่ผ่านมาของวานนี้ ได้เกิดฝนตกลงมาซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ตรงจุดบริเวณป่าพรุโดยตรง ทำให้ไฟป่าพรุในแนวดิ่งมอดลงจนเกือบดับสนิทแล้ว
...


"ถึงแม้ฝนจะตกลงมาช่วยแก้สถานการณ์ ซึ่งเมื่อวานเหลือพื้นที่คุกรุ่นเพียง 2% แต่เราต้องทำงานกันต่อไปอีกจนกว่าไฟป่าจะมอดสนิท จนมั่นใจจริงๆ ว่า จะไม่ปะทุขึ้นมา เพราะแนวราบเราควบคุมได้แล้ว เหลือแต่แนวดิ่งเล็กน้อย แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้สกัดหัวไฟได้หมดทุกจุดแล้วเช่นกัน เชื่อว่าภายใน 1-2 วันนี้ สถานการณ์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ" รอง ผวจ.นราธิวาส กล่าว

ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่บูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเหน็ดเหนื่อยตลอดระยะเวลาร่วมเดือน ตั้งแต่ไฟยังลุกโชนจนกระทั่งไฟมอดสนิท เพื่อรักษาผืนป่าและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง แต่อยากฝากไปถึงผู้ที่เข้าไปในป่าทุกพื้นที่ อย่าได้จุดไฟไม่ว่าจะกรณีใดๆ เพราะหากไฟลามโดยเฉพาะฤดูร้อน จะเกิดสภาวะไฟลามทุ่งแบบเหตุการณ์นี้ได้.