ไฟป่าพรุบาเจาะเริ่มคลี่คลายเหลืออีกแค่ 5% หลังมีฝนกระหน่ำ ด้านรองผู้ว่าฯ นราธิวาส เผยได้ข้อสรุปเย็นนี้ว่าต้องใช้เฮลิคอปเตอร์เฉพาะกิจดับเพลิงหรือไม่ ขณะที่ จนท.ภาคพื้นดินควบคุมดูแลใกล้ชิด

วันที่ 7 มิ.ย.63 จากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ ต.ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ที่เริ่มไหม้มาตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.63 ที่ผ่านมา และเมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) มีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ระดมสรรพกำลังพร้อมเครื่องมือต่างๆ เข้าปฏิบัติการณ์ทางภาคพื้นดินและทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยปริมาณน้ำฝนในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุไฟไหม้นั้น ประมาณ 44.4 มิลลิเมตร ถึง 61.6 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าหนักมาก

...

ล่าสุด นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาและมีแนวโน้มอาจจะตกซ้ำอีก เนื่องจากช่วงเช้าของวันนี้ท้องฟ้ายังปกคลุมด้วยเมฆฝน ทำให้คาดการณ์ว่าบริเวณไฟป่าที่ยังคงคุกรุ่นอยู่บ้างเป็นหย่อมๆ ในแนวดิ่ง ในรัศมีบนเนื้อที่ที่เจ้าหน้าที่จำกัดวงไว้ได้โดยการทำแนวกันไฟคือประมาณ 2,300 ไร่นั้น เมื่อวานตรวจสอบพบว่าไฟยังคุกรุ่นอยู่เพียง 5% โดยเจ้าหน้าที่ได้สกัดหัวไฟได้หมดทุกจุดแล้วตั้งแต่เมื่อวาน อย่างไรก็ตามช่วงเช้าของวันนี้ตนเองกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังคงต้องเข้าควบคุมพื้นที่ และตรวจสอบจากภาพถ่ายทางโดรน เพื่อให้แน่ใจว่าไฟมอดสนิทหรือไม่

“ช่วงเย็นวันนี้ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่บริเวณป่าพรุ เพื่อประเมินสถานการณ์จากชุดสำรวจในช่วงเช้า แต่แนวโน้มจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งช่วงเย็นเราจะได้ข้อสรุปว่า เรายังคงต้องการการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์เฉพาะกิจดับเพลิง ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอีกหรือไม่ แต่เพื่อความไม่ประมาทผมได้สั่งการไปยังทีมดับไฟให้ควบคุมพื้นที่ไว้ตลอดเวลา เพราะเราไม่รู้ว่าไฟจะปะทุขึ้นมาอีกเมื่อไร หากยังไม่มอดสนิท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเชื่อว่าหากวันนี้เกิดฝนตกหนักซ้ำขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เชื่อว่าไฟป่าครั้งนี้จะมอดสนิทในที่สุด” รอง ผวจ.นราธิวาส กล่าว.